tag:blogger.com,1999:blog-19977850166441534662024-02-19T18:13:56.668-08:00วิจตรา นันทนาวุฒิวิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.comBlogger14125tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-89609592970136930692011-02-10T11:50:00.000-08:002011-02-10T11:50:11.228-08:00บทที่13 แนวโนม้และรูปการท่องเที่ยว<div align="center"><span style="color: red; font-size: 180%;"><span style="font-size: x-large;">บทที่ 13 </span></span></div><div align="center"><span style="color: red; font-size: 180%;"><span style="font-size: x-large;">แนวโน้มและรูปแบบทางการท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมในปัจจุบัน</span></span></div><br />
<strong><span style="font-family: trebuchet ms;">การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism)</span></strong><br />
<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516450867337840434" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI5e1iCRRzI/AAAAAAAAAdY/XorC4eFnXNg/s320/%E0%B8%A0.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 287px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
<div align="left">การจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หมายถึง การกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์และการพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยว รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สามารถรักษาเอกลักษณ์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมไว้นานที่สุด เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และใช้ประโยชน์ได้ตลอดไป</div><br />
<div align="left"><strong><span style="font-family: verdana;">แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน</span></strong><br />
สามารถพิจารณาได้จากองค์ประกอบ 4 ประการคือ</div><ol><li><div align="left">การดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวในขอบเขตของความสามารถของธรรมชาติชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนต่อกิจกรรมการท่องเที่ยว</div></li>
<li><div align="left">การตระหนักในกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีผลกระทบต่อชุมชนขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน</div></li>
<li><div align="left">การมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศชุมชน ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีต่อการท่องเที่ยว</div></li>
<li><div align="left">การประสานความต้องการทางเศรษฐกิจ การคงอยู่ของสังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน</div></li>
</ol><div align="left"><strong><span style="font-family: trebuchet ms;">รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน</span></strong><br />
ควรคำนึงถึงองค์ประกอบ 3 ประการ </div><ol><li><div align="left">เป็นการจัดการท่องเที่ยวที่มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศนั้นๆ</div></li>
<li><div align="left">เป็นการจัดการการท่องเที่ยวที่สร้างความรู้และให้ความรู้</div></li>
<li><div align="left">เป็นการจัดการการท่องเที่ยวที่ประชาชนในท้องถิ่นมีบทบาท มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ร่วมจัดทำและร่วมได้รับผลประโยชน์อย่างเสมอภาค</div></li>
</ol><div align="left"><strong><span style="font-family: trebuchet ms;">ความสำคัญของการจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน</span></strong></div><ul><li><div align="left">เพื่อให้การใช้ทรัพยากรท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด</div></li>
<li><div align="left">เพื่อรักษาทรัพยากรท่องเที่ยวให้คงอยู่อย่างยั่งยืน</div></li>
<li><div align="left">เพื่อป้องกันผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดกับทรัพยากรท่องเที่ยวทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม</div></li>
</ul><div align="left"><strong><span style="font-family: verdana;">หลักการจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน</span></strong></div><ul><li><div align="left">อนุรักษ์และใช้ทรัพยากรอย่างพอดี (Using Resource Sustainable) </div></li>
<li><div align="left">ลดการบริโภคและใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็นและลดการก่อของเสีย (Reducing Over-Consumption and Waste)</div></li>
<li><div align="left">รักษาและส่งเสริมความหลากหลายของธรรมชาติ สังคมและวัฒนธรรม (Maintain Diversity)</div></li>
<li><div align="left">การประสานการพัฒนาการท่องเที่ยว (Integrating Tourism into Planning)</div></li>
<li><div align="left">ต้องการนำการท่องเที่ยวขยายฐานเศรษฐกิจในท้องถิ่น (Supporting Local)</div></li>
</ul><div align="left"><strong><span style="font-family: trebuchet ms;">ขีดความสามารถในการรองรับ (Carrying capacity)</span></strong> หมายถึง ปริมาณการใช้ประโยชน์พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่พื้นที่นั้นสามารถจะแบกรับไว้ได้ ก่อนที่จะเกิดความเสื่อมโทรมขึ้นกับพื้นที่นั้นๆ </div><div align="left"><strong><span style="font-family: trebuchet ms;">การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco Tourism)</span></strong> </div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516451107304583826" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI5fDf-zMpI/AAAAAAAAAdg/UlJRM-kFaC0/s320/5.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 213px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ให้คำนิยามว่า <strong><span style="font-family: times new roman;">การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco Tourism)</span></strong> หมายถึง การท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และแหล่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศ โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้องภายใต้การจัดการสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดจิตสำนึกต่อการรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน<br />
<div align="left"><strong><span style="font-family: trebuchet ms;">การท่องเที่ยวนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 6 ประการ</span></strong> </div><ol><li><div align="left">เป็นการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น </div></li>
<li><div align="left">เป็นการท่องเที่ยวในแหล่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศ </div></li>
<li>มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมีระบบ </li>
<li><div align="left">มีการจัดการด้านการให้ความรู้ </div></li>
<li>มีความรับผิดชอบโดยผู้เป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว </li>
<li><div align="left">เป็นการท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความเพลิดเพลินและประทับใจ </div></li>
</ol><div align="left"><strong><span style="font-family: times new roman;">กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ</span></strong>นั้นมีอยู่หลายแบบ สามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้<br />
<strong><span style="font-family: times new roman;">กิจกรรมหลัก</span></strong> 10 ประเภท ได้แก่</div><ol><li><div align="left">กิจกรรมการเดินป่า (Hiking/ Trekking) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมศึกษาธรรมชาติ (Nature Education) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมถ่ายรูปธรรมชาติ บันทึกเทปวิดีโอ เทปเสียงธรรมชาติ (Nature Photography, Video Tapping And Sound of Nature Audio Taping) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมส่อง/ ดูนก (Bird Watching) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมศึกษา/ เที่ยวถ้ำ (Cave Exploring/ Visiting) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมศึกษาท้องฟ้าและดาราศาสตร์ (Sky Interpretation) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมล่องเรือศึกษาธรรมชาติ (Boat Sightseeing) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมพายเรือแคนู/ เรือคายัค/ เรือบด/ เรือใบ (Canoeing/ Kayak/ Browbeating)/ sailing)</div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น (Snorkel Skin Diving) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมดำน้ำลึก (Scuba Diving)</div></li>
</ol><div align="left"><strong><span style="font-family: times new roman;">กิจกรรมเสริม</span></strong> 9 ประเภท ได้แก่ </div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516451783185986322" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI5fq11e8xI/AAAAAAAAAdo/N1VQUWQv_CA/s320/7.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> <br />
<ol><li>กิจกรรมชมทิวทัศน์ธรรมชาติในบรรยากาศที่สงบ (Relaxing) </li>
<li>กิจกรรมขี่จักรยานตามเส้นทางธรรมชาติ (Terrain/ Mountain Biking) </li>
<li><div align="left">กิจกรรมปีน/ ไต่เขา (Rock/ Mountain Climbing)</div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมพักแรมด้วยเต็นท์ (Tent Camping) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมเครื่องร่อนขนาดเล็ก (Hang Glider) </div></li>
<li>กิจกรรมล่องแพยาง/ แพไม้ไผ่ (White Water Rafting) </li>
<li><div align="left">กิจกรรมพักผ่อนรับประทานอาหาร (Picnicking) </div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมเที่ยวน้ำตก (Waterfall Visits/ Exploring)</div></li>
<li><div align="left">กิจกรรมวินด์เซิร์ฟ (Windsurfing)</div></li>
</ol><div align="left"><strong><span style="font-family: times new roman;">การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agrotourism)</span></strong></div><br />
เป็นการท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมการเกษตรเป็นทรัพยากรการท่องเที่ยวหลัก สามารถดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว มีการจัดระบบการให้บริการไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน<br />
<div align="left"><strong><span style="font-family: times new roman;">ลักษณะสำคัญ</span></strong></div><ul><li><div align="left">เป็นการท่องเที่ยวที่มุ่งความสนใจไปยังกิจกรรมการเกษตรหรือสภาพแวดล้อมทางการเกษตรเป็นหลัก</div></li>
<li><div align="left">เป็นการท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีวัตถุประสงค์ทางการเกษตรเป็นหลัก</div></li>
<li><div align="left">เป็นการท่องเที่ยวที่มีการจัดระบบการให้บริการไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน เป็นต้น</div></li>
</ul><div align="left"><strong><span style="font-family: verdana;">ประเภทของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร</span></strong><br />
<strong><span style="font-family: times new roman;">การกสิกรรม</span></strong> หมายถึงการประกอบพืชไร่ พืชสวน<br />
การประมง ได้แก่ กิจกรรมการเพาะเลี้ยงและการจับสัตว์น้ำ<br />
การปศุสัตว์ </div><div align="left"><strong><span style="font-family: times new roman;">การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism)</span></strong> <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516453264352032722" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI5hBDm_N9I/AAAAAAAAAd4/VbGGgB0uV68/s320/44.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 196px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516453369053757794" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI5hHJp0wWI/AAAAAAAAAeA/8iRFC_Wkd1U/s320/55.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหมายถึง การท่องเที่ยวเพื่อบำบัดโรคหรือบำรุงสุขภาพกายหรือสุขภาพจิตของนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจเป็นการรักษาโรค การฟื้นฟูสุขภาพและการรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น</div><div align="left"><strong><span style="font-family: times new roman;">ประเภทของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ</span></strong></div><ul><li><div align="left">การท่องเที่ยวเพื่อรักษาโรคของนักท่องเที่ยว</div></li>
<li><div align="left">การท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูสุขภาพของนักท่องเที่ยว</div></li>
<li><div align="left">การท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักท่องเที่ยวให้ดีขึ้น เป็นต้น</div></li>
</ul>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-26245532579506799842011-02-10T11:48:00.000-08:002011-02-10T11:48:00.546-08:00บทที่12 การพาณิชย์อิเลกทรอนิกส์สำหรับอุสาหกรรมการท่องเที่ยว<div align="center"><span style="color: #ff6666;">บทที่ 12 การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว</span></div><span style="color: #ff6666; font-size: 180%;"></span><br />
<br />
<br />
<span style="color: #ff6666; font-size: 180%;"></span><span style="font-size: x-large;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515942357350905090" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiN-1L7HeogVK4nLuMh7zDgdrawdCxv5jSZTK3-ASbEKS4baKjH6ZBjpq6LQzMsWHnN66bpFKb4xFcz1rKBZ57NUDhMwo8RO3ndG8mNWZth2dLJMh-UkQ6lZgtgMa-gwgj1f480j3CtIIRY/s320/untitled20.bmp" style="cursor: hand; display: block; height: 214px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 235px;" /></span><span style="color: #ff6666;">การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว</span> คือ การทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Networks) เพื่อปรับปรุงสิทธิภาพของบริษัท มี ๒ รูปแบบ คือ<br />
๑) การแลกเปลี่ยนข้อมูล (EDI) เป็นการจำกัดจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือแบบตัวต่อตัว<br />
๒) การใช้บริการตู้จ่ายเงินสด (ATM) จำกัดจากที่หนึ่งไปยังอีกหลายๆที่<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515941636130370210" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgTLHiVRsXFo_b-532-4SHIVJKAp3F84W0a6sF2aBt7wqQdTYmsXHsWe_eIdY2Dae9wxtXXySV_NxLEsa1hRoxzMu2xamGrNFSVTYodr65lRCiNbYdM_izML2m0Zy1uYdmEJxufF5PpunS/s320/untitled19.bmp" style="cursor: hand; display: block; height: 269px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 153px;" /><span style="color: #ff6666;">สาเหตุที่องค์กรต่างๆใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์</span><br />
๑) การจำหน่ายสินค้า ทำให้สินค้าถึงผู้บริโภคโดยตรง<br />
๒) รายได้ ไม่ต้องผ่านตลาด รายได้เพิ่มขึ้น<br />
๓) สามารถบริการลูกค้าได้ดีขึ้น<br />
๔) ขนส่งสินค้าได้เร็วมากขึ้น<br />
<br />
<span style="color: #ff6666;">ความสัมพันธ์ระหว่างการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว</span>๑) ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<br />
- ด้านการติดต่อสื่อสาร<br />
- ด้านการขาย<br />
๒) ผลกระทบของระบบอินเตอร์เน็ตที่มีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<br />
เนื่องจากความสนใจในการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก กลุ่มประกอบการตัวแทนจำหน่ายทางด้านการท่องเที่ยว จึงประสบผลกระทบอย่างรุนแรง พวกเขาจึงสร้างระบบการจองต่างๆ ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต หรือ ปรับเปลี่ยนองค์กรให้เหมาะสม<br />
<br />
<span style="color: #ff6666;">การนำระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ได้ประโยชน์สูงสุด </span><br />
<br />
<div align="left"><span style="color: #ff6666;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515942684318676402" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj1cM9l12xo9jywJ2XHq6iXUvprFizcsY0v9cbF0BLeoC64n1S5SGAzJCmgOMObxWIWpRGK4wHTZTZiYccE2VCGBdBG_uyi5IvPI2AXNnJPdCnbJXSJ_TuBdheLfgDRNzEhK-LMiuR_VGf3/s320/untitled22.bmp" style="cursor: hand; display: block; height: 206px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 239px;" /></span>๑.การประชาสัมพันธ์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ถ้ามีการนำเสนอข้อมูลที่ดี โดยนำเสนอรูปภาพและบริการต่างๆ จะเป็นการเพิ่มแรงจูงใจแก่ลูกค้า<br />
๒.การกระจายข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ถ้าข้อมูลที่มีความละเอียด เป็นระเบียบแบบแผน จะส่งผลดีต่อองค์กร เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้ข้อมูล เพื่อมาเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตนเอง<br />
๓.การเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต การเก็บข้อมูลที่ดี จะเป็นประโยชน์แก่เจ้าของกิจการ<br />
๔.การจองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อลูกค้าจะได้ทำธุรกรรมได้โดยปราศจากข้อผิดพลาด และสะดวกสบาย</div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-39948380290545889652011-02-10T11:38:00.000-08:002011-02-10T11:38:17.117-08:00บทที่11 องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว<span style="color: magenta;"><span style="font-size: large;"><span style="color: #ffcccc;"><span style="font-size: small;">บทที่11<br />
องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว</span></span></span>องค์กรท่องเที่ยวโลก เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตามวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวนานาชาติในระดับระหว่างรัฐบาลโดยจัดตั้งเป็นองค์การที่มีชื่อว่าWorld Tourism Organization : WTO<br />
องค์กรการท่องเที่ยวโลกจัดชึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้<br />
1 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ สันติภาพ ความมั่งคั่ง โดยเคารพหลักสากลในด้านสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนทั่วโลก โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และเพศ<br />
2 เพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์การ จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อ ประโยชน์ของประเทศที่กำลังพัฒนาในด้านการท่องเที่ยว<br />
3 เพื่อดำเนินการตามบทบาทด้านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ องค์การจึงสร้าง และธำรงไว้ในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับองค์การสหประชาชาติ ตลอดจนทบวงการชำนัญพิเศษขององค์การ สหประชาชาติ โดยองค์การจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง</span><br />
<span style="color: magenta;"><span style="color: #ffcc99;">องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICOA)</span>มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เป็นองค์การที่จัดตั้งขึ้นในปี 2487 (ค.ศ.1944) ปัจจุบันมีสมาชิก 188 ประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายขององค์การ คือ ส่งเสริมการบินพลเรือนให้กว้างขวางไปทั่วโลก องค์การนี้มีสำนักงานสาขาประจำภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิกในประเทศไทยโดยตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต (ติดกับสวนจตุจักร) ลาดพร้าว กรุงเทพฯ</span><span style="color: magenta;"><span style="color: #ffff99;">องค์กรระดับภูมิภาคที่ดำเนินการโดยภาครัฐ</span>องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Cooperation and Development-OECD) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1960 ที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส องค์กรนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวกล่าว คือ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการท่องเที่ยวขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวประสานงานการศึกษาทางด้านการท่องเที่ยวและเป็นผู้ดำเนิน การจัดประชุมประเทศสมาชิก เพื่อปรับปรุงวิธีการทางสถิติของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราและระบบบัญชีองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนายังได้จัดทำรายงานประจำปีที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อว่า “Tourism Policy and International Tourism in OECD Member Countries”<br />
<span style="color: #ffffcc;">องค์กรระดับอนุภูมิภาคที่ดำเนินการโดยภาครัฐ</span><br />
คณะอนุกรรมการด้านการท่องเที่ยวภายใต้คณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการท่องเที่ยวอาเซียน (Sub-Committee on Tourism of the Committee on Trade and Tourism)<br />
วัตถุประสงค์ในการดำเนินงานคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ส่งเสริมให้มีความร่วมมือกันอย่างจริงจังระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในกิจการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจนำเที่ยว เป็นต้น<br />
<span style="color: #99ff99;">องค์กรระดับโลกที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน</span><br />
World Travel and Tourism Council: WTCC<br />
สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก สมาชิกของสภาจะเป็นองค์การที่ได้รับการเชิญให้เป็นสมาชิกเท่านั้น โดยการพิจารณาให้เป็นสมาชิกดูที่ว่าเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ รวมทั้งเป็นองค์การที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก หรือระดับภูมิภาคหรือไม่ เช่น สายการบิน โรงแรม ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจนำเที่ยว หรือธุรกิจให้เช่ารถ เป็นต้น สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกมีพันธกิจในการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก ดังนี้<br />
1 การดำเนินงานตามวาระการประชุม การสร้างความตระหนักถึงผลกระทบถึงการเดินทางและการท่องเที่ยว และชักชวนรัฐบาลให้คำนึงถึงความสำคัญของการสร้างงานและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศด้วยการเดินทางและการท่องเที่ยว<br />
2 การเป็นผู้อำนวยความสะดวก การช่วยให้ผู้มีส่วนร่วมเข้าใจ คาดหวัง แปลความหมาย และดำเนินงานการพัฒนาภูมิหลักของโลก<br />
3 การสร้างเครือข่ายสภา สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกเป็นสภาของผู้นำทางธุรกิจที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยวอยากเข้ามามีส่วนร่วม<br />
International Congress and Convention Association: ICCA</span><span style="color: magenta;"><span style="color: #99ffff;">สมาคมส่งเสริมการประชุมระหว่างประเทศ</span>สมาคมส่งเสริมการประชุมระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการระหว่างประเทศ และเป็นตัวกลางในการอำนวยความสะดวกในการจัดบริการด้านที่พัก การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประชุมและการจัดนิทรรศการ<br />
<span style="color: #ccffff;">องค์กรระดับภูมิภาคที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน</span><br />
The Pacific Asia Travel Association: PATA<br />
มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานเพื่อกระตุ้นความสนใจให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นดินแดนเพื่อการพักผ่อน เพื่อพัฒนา ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวไปสู่แหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1 ใน 3 ของโลก และให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวในภูมิภาคแปซิฟิก<br />
วัตถุประสงค์หลักในการดำเนินงานของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่<br />
1. เป็นสื่อกลางแห่งความร่วมมือระหว่างประเทศ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว<br />
2. การให้ความช่วยเหลือด้านการส่งเสริม และการพัฒนาแก่ประเทศสมาชิก และช่วยหาแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการที่เกี่ยวกับที่พัก และการพักผ่อนหย่อนใจ<br />
3. การประสานงานระหกว่างสมาชิกทั้งมวลกับวงการอุตสาหกรรมขนส่ง และธุรกิจการท่องเที่ยว<br />
4. การดำเนินการโฆษณา ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นที่รู้จักกว้างขวางในฐานะที่เป็นภูมิภาคที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนแห่งหนึ่งของโลก<br />
5. การส่งเสริมให้มีการบริการ และการอำนวยความสะดวกในด้านการขนส่งทั้งที่เข้ามา และภายในภูมิภาคแปซิฟิกให้พอเพียง<br />
6. การดำเนินการด้านสถิติ และค้นคว้าวิจัยแนวโน้มของการเดินทางท่องเที่ยว และการพิจารณาของการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์แก่สมาชิกทั้งมวล<br />
ASEAN Tourism Association: ASEANTA<br />
<span style="color: #ccffff;">สมาคมท่องเที่ยวอาเซียน</span><br />
เป็นการรวมตัวของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม และสายการบินแห่งชาติอาเซียน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้<br />
1. เพื่อรวมให้สมาชิกมีจุดมุ่งหมายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการประสานความร่วมมือ มิตรภาพ ตลอดจนความช่วยเหลือต่อกัน<br />
2. เพื่อรักษาระดับของมาตรฐานการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว<br />
3. รักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิและคุณธรรมของธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อคงไว้ซึ่งงานอาชีพแขนงหนึ่ง<br />
4. สนับสนุนและคงไว้ซึ่งสัมพันธภาพระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน<br />
5. กระตุ้น สนับสนุน และช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคอาเซียน<br />
6. ประสานงานและให้คำแนะนำแก่สมาคม หน่วยงานของรัฐ เอกชน และองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกหรือเกี่ยวข้องในวงการธุรกิจท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน<br />
7. ให้บริการหรือความช่วยเหลือต่อภาครัฐบาลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว<br />
American Society of Travel Agents ASTA<br />
<span style="color: #ccccff;"><span style="color: lime;">สมาคมบริษัทนำเที่ยวแห่งอเมริกา</span></span><br />
สมาคมนี้ถือได้ว่าเป็นสมาคมของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นองค์การเดียวที่รวบรวมสมาชิกต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสาขาไว้ด้วยกัน<br />
ปัจจุบันสมาคมมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเพื่อ<br />
1. วางมาตรการการบริการแก่นักท่องเที่ยว<br />
2. ส่งเสริมการท่องเที่ยว และประสานงานการดำเนินงานของบริษัทนำเที่ยวในสหรัฐอเมริกา<br />
3. ให้ความร่วมมือแก่องค์การระหว่างประเทศ และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ทั่วโลก<br />
4. ขจัดปัญหาและร่วมอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวเป็นส่วนรวม<br />
<span style="color: #ffccff;"><span style="color: lime;">สำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นั้นเข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี พ.ศ.2509</span></span><br />
องค์กรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย<br />
กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา<br />
(Ministry of Tourism and Sport)<br />
สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวมีภารกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในการพัฒนามาตรฐาน การบริการด้าน การท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการสนับสนุนการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน</span><br />
<span style="color: magenta;">เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และเพื่อก่อให้เกิดการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งเดิมเป็นภารกิจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้ถ่ายโอนมาให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ประกอบกับกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2545 นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว ยังรับโอนงานพัฒนาและสนับสนุนกิจการภาพยนตร์มาจากกรมประชาสัมพันธ์ด้วย<br />
Thailand Convention and Exhibition Bureau เป็นองค์การมหาชนของรัฐ สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดตั้งในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2545 ทำหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนาการจัดประชุมและนิทรรศการ (MICE) นานาชาติในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สำคัญในการจัดกิจกรรมดังกล่าว<br />
<span style="color: lime;"><span style="color: #ff99ff;">องค์กรภาคธุรกิจเอกชน</span></span>สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (Association of Thai Travel Agents :ATTA)<br />
สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (Thai Travel Agents Association: TTAA)<br />
สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งประเทศไทย (สนท. The Association of Thai Tour Operators: ATTO) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย (สมอ. Professional Guide Association Thailand: PGA<br />
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรภาคเอกชน จัดตั้งโดยพระราชบัญญัติ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ที่กำหนดในพระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 ดังนี้<br />
-เป็นตัวแทนของผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในด้านการประสานงานอย่างมีระบบ ระหว่างรัฐกับเอกชนด้วยกัน<br />
-ส่งเสริมให้มีการพัฒนาการประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว<br />
-ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี สถานที่ท่องเที่ยว โบราณสถาน และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเอกลักษณ์ของความเป็นไทย<br />
-ส่งเสริมให้มีจรรยามารยาทในการท่องเที่ยว<br />
-ส่งเสริมให้มีระบบการรับรองคุณภาพ ระบบมาตรฐาน และระบบประกันคุณภาพของธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการสำหรับนักท่องเที่ยว<br />
-ควบคุมดูแลให้สมาชิกผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดำเนินการอย่างมีคุณภาพ มีคุณธรรม และมีจรรยาบรรณ<br />
-ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ทดลอง อบรม และเผยแพร่วิชาการและเทคโนโลยี เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้แก่สมาชิก หรือจัดเป็นบริการบุคคลทั่วไป<br />
-ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อสมาชิก และบุคคลทั่วไปทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ<br />
-เสนอความเห็นหรือให้คำปรึกษาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว<br />
-ให้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม กิจการด้านการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ<br />
-คุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว<br />
ส่งเสริมให้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างสมาชิกด้วยกัน<br />
-ศึกษาและหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว<br />
-ดำเนินกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว<br />
-ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว</span>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-69016730816191569782011-02-10T11:35:00.000-08:002011-02-10T11:35:38.102-08:00บทที่10 กฎหมายสำคัญของไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<!-- google_ad_section_start(name=default) --><br />
<div class="date-outer"><h2 class="date-header"><span style="font-size: small;"><span style="color: magenta;"><span style="color: #ffcc66;">บทที่ 10 </span><br />
<span style="color: #ffcc66;">กฎหมายสำคัญของไทย ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว</span><br />
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับองค์กรณ์หลายฝ่ายทั้งรัฐและเอกชน และด้วยเหตุที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการสั่งการในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวดั้งนั้น<br />
กฎหมายสำคัญของไทยที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้<br />
1 กฎหมายเกี่ยวกับองค์การที่ดูแลสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยทั่วไป<br />
2 กฎหมายควบคุมนักท่องเที่ยว<br />
3 กฎหมายควบคุมดูแลและพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยว<br />
4 กฎหมายควบคุมเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว<br />
5 กฎหมายเกี่ยวกับองค์การที่ดูแลสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยทั่วไป มี<br />
<span style="color: yellow;">กฎหมายสำคัญจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่</span><br />
1 พระราชบัญญัติการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522<br />
-คำจำกัดความของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวและคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย<br />
-ระเบียบเกี่ยวกับการจัดตั้งทุน และเงินสำรองของการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย<br />
ระเบียบเกี่ยวกับการกำกับ การควบคุมและการบริหารงานของททท.<br />
2 พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545<br />
-กฎหมายก่อตั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขึ้นรับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว<br />
-ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โอนภาระงานด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาบริการท่องเที่ยว และทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวให้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
-ทำให้ททท.มีหน้าที่เพียงด้านการบริหารจัดการตลาดการท่องเที่ยวเป็นหลัก<br />
3 พระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544<br />
-กำหนดให้มีการจัดตั้งสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมี<br />
วัตถุประสงค์เพื่อ<br />
1 เป็นตัวแทนของผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในด้านการประสานงาน<br />
2 ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว<br />
3 ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี สถานที่ท่องเที่ยว โบราณสถาน และสิ่งแวดล้อมรวมทั้งเอกลักษณ์ของความเป็นไทย<br />
4 ส่งเสริมให้มีจรรยามารยาทในการท่องเที่ยว<br />
4 พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 ถึง 2546 (รวม 5 ฉบับ)<br />
-เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม<br />
-จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก การกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุและผู้พิการ<br />
-คุ้มครองดูแลและบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม<br />
-บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น<br />
<span style="color: yellow;">กฎหมายควบคุมนักท่องเที่ยว</span> มีกฎหมายสำคัญ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่</span></span><span style="font-size: small;"><span style="color: magenta;"><span style="color: #ffcc33;">11พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522, 2523 และ 2542</span>-เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว<br />
-ดูแลเกี่ยวกับการเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของคนต่างด้าว<br />
-การควบคุมพาหนะที่เข้า-ออกประเทศตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือท้องที่ที่กำหนด</span></span><span style="color: magenta;"><span style="font-size: small;"><span style="color: #ffcc33;">2พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ถึง 2548</span>-เป็นกฎหมายเก่าแก่ที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2469 และได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่อยมาโดยลำดับ<br />
-ในปัจจุบัน (พ.ศ. 2548) มีกฎหมายศุลกากรใช้บังคับอยู่รวม 20 ฉบับ<br />
-เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการนำของเข้า การส่งของออก การเสียภาษีตามพิกัดอัตราศุลกากรของนักท่องเที่ยว รวมทั้งระเบียบว่าด้วยการตรวจของและป้องกันการลักลอบหนีศุลกากร และข้อกำหนดเรื่องการนำเงินตราเข้าออกประเทศ<br />
- กฎหมายควบคุมดูแลและพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยวมีกฎหมายสำคัญ จำนวน 17 ฉบับ ได้แก่<br />
<span style="color: #ffcc00;">3 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504</span><br />
-เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองดูแลรักษาและจัดการอุทยานแห่งชาติอันเป็นทรัพยากรการ ท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติซึ่งต้องการให้มีการจัดการ การอนุรักษ์ และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน<br />
-อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม<br />
เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียน การกำกับดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และป้องกันการค้าโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ผิดกฎหมาย การจัดตั้งอุทยานประวัติศาสตร์<br />
-ระบุให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด และมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด<br />
-เนื่องจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมการดำเนินการใดๆจึงต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้อย่างเคร่งครัด<br />
<span style="color: yellow;">กฎหมายควบคุมเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว22 ฉบับ</span><br />
1 พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2535<br />
การกำกับดูแลเรื่องของการจัดตั้ง ควบคุมการดำเนินงาน รวมทั้งการกำหนดบทลงโทษสำหรับธุรกิจนำเที่ยวเฉพาะพื้นที่ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ และธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้การประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้มาตรฐาน และไม่เป็นการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว<br />
กำกับดูแลในเรื่องของการขอรับใบอนุญาตการขอต่ออายุ หรือยกเลิกการเป็นมัคคุเทศก์ทั่วไปและมัคคุเทศก์เฉพาะด้วย เนื่องจากมัคคุเทศก์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในอันที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมเพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพนี้มีจรรยาบรรณแห่วิชาชีพอย่างแท้จริง<br />
- การจัดตั้งสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ในแต่ละภูมิภาค<br />
2 พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547<br />
- เกี่ยวข้องกับการการสร้างโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยว<br />
- การควบคุมดูแลและการให้บริการแก่ผู้พักอาศัยของเจ้าของกิจการ<br />
- พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509, 2521, 2525 และ 2546<br />
- เกี่ยวข้องกับการการให้คำจำกัดความของสถานบริการประเภทต่างๆ เช่น สถานเต้นรำ สถานที่ที่มีอาหาร สุราจำหน่าย สถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัวฯลฯ<br />
- ระเบียบว่าด้วยการจัดตั้ง การควบคุมดูแล การให้บริการแก่ผู้รับบริการจากสถานบริการเหล่านั้นทั่วราชอาณาจักร<br />
- พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535<br />
- เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแล และควบคุมมาตรฐานของภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือกิจการประเภทอื่นที่เกี่ยวข้องในด้านความสะอาด ถูกสุขอนามัย เพื่อสนองแนวคิดเรื่อง Clean food good taste เป็นต้น<br />
- มีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการให้อำนาจแก่ท้องถิ่นในการบริหารจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมของชุมชน<br />
3 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528,2537,2544<br />
-เกี่ยวข้องกับการจัดหางานภายในประเทศ และการไปทำงานในต่างประเทศสาขาการท่องเที่ยวของบริษัทจัดหางานให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย<br />
4 พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2535<br />
- ข้องกับการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว<br />
5 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2520, 2534 และ 2544<br />
- เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจด้านโฆษณาของธุรกิจต่างๆในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<br />
6 พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 ถึง 2548<br />
- กำหนดมาตรฐานการจัดทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งอาจเป็นสินค้าของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว เช่น ไวน์พื้นบ้าน สินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง เป็นต้น<br />
7 พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542<br />
- เกี่ยวกับการคุ้มครองและส่งเสริมการแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย เช่น นวดแผนโบราณ เป็นต้น<br />
8 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และ 2541<br />
- เป็นกฎหมายที่ใช้ในการคุ้มครองการบริโภคของบุคคลต่างๆ รวมถึงการคุ้มครองการบริโภค เช่น การซื้อของที่ระลึก ของนักท่องเที่ยว ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.นี้<br />
9 พระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ถึง 2543<br />
- การรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินกิจการตามที่กำหนดไว้ เช่น การสร้างทางรถไฟสายใหม่ เลิกกิจการในเส้นทางที่ปิดการเดินรถแล้ว ตั้งอัตราค่าโดยสาร เป็นต้น<br />
- รฟท.ต้องไม่วางระเบียบ ตลอดจนกำหนดอัตราค่าขนส่งอันจะเป็นการขัดกับนโยบายของคณะรัฐมนตรีในทางเศรษฐกิจการคลัง โดยได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร<br />
10 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ถึง 2546<br />
- กำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งประจำทาง ไม่ประจำทาง การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก การขนส่งส่วนบุคคล การรับจัดการขนส่ง และสถานีขนส่งต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน<br />
- รถที่ใช้ในการประกอบการขนส่งผู้โดยสารต้องจดทะเบียนเสียภาษี และผ่านการตรวจสภาพเพื่อความมั่นคงแข็งแรงจากพนักงานตรวจสภาพรถหรือจากสถานตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ<br />
- ผู้ประจำรถ ได้แก่ ผู้ขับรถ ผู้เก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และผู้บริการตามที่กำหนดในกฎกระทรวงต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน<br />
- ห้ามมิให้ผู้ได้รับอนุญาตประกอบการขนส่งเพิ่ม ลด หรือยกเว้นค่าขนส่งหรือค่าบริการอย่างอื่นในการขนส่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ<br />
11 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ถึง 2542<br />
- เกี่ยวกับการใช้รถ สัญญาณจราจร และเครื่องหมายจราจร การใช้ทางเดินรถ ข้อกำหนดเกี่ยวกับ<br />
12 พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ถึง 2547<br />
- แบ่งรถยนต์ออกเป็น 3 ประเภท คือ รถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการ และรถยนต์ส่วนบุคคล<br />
- กฎหมายว่าด้วยทางหลวงตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 259 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2515<br />
- การรักษาทางหลวงให้คงทนถาวรและมีบทบัญญัติกำหนดประเภทและชนิดของทางหลวง การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวง รวมถึงประกาศกำหนดน้ำหนักบรรทุกสูงสุดของยานพาหนะที่ใช้บนทางหลวง<br />
13 พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทยพ.ศ.2494 ถึง 2543<br />
- การควบคุม ดูแลกิจการท่าเรือหรือธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรือ ซึ่งหมายรวมถึงท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวด้วย<br />
14 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ถึง 2540<br />
- การควบคุมดูแล การจัดระเบียบการเดินเรือสมุทรเพื่อการท่องเที่ยวและกิจการท่องเที่ยวทางน้ำประเภทต่างๆ<br />
- ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 68 ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2515<br />
- มาตรการป้องกันและปราบปรามการใช้แม่น้ำลำคลองเป็นที่จอดเรือเพื่อพักอาศัยโดยไม่เคลื่อนที่เป็นเวลานานจนก่อให้เกิดความสกปรกรกรุงรัง<br />
15 พระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ.2481 ถึง 2540<br />
- การออกทะเบียนเรือสำหรับการค้าในน่านน้ำไทย การโอนกรรมสิทธิ์เรือการจำนองและบุริมสิทธิอันเกี่ยวกับเรือ ชื่อเรือ การเปลี่ยนแปลงเรือ และการเปลี่ยนแปลงเมืองท่าขึ้นทะเบียน<br />
16 พระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ.2522 เป็น<br />
- การใช้และการห้ามใช้โคมไฟ การใช้ทุ่นเครื่องหมาย การใช้เสียงสัญญาณ สัญญาณเวลาอับจน การถือท้ายและการเดินเรือ รวมถึงกำหนดวิธี หลักการป้องกันเรือโดนกัน<br />
17 พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 ถึง 2542<br />
- เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวในส่วนของการชำระค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของนักท่องเที่ยว<br />
18 พระราชบัญญัติการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 ถึง 2538<br />
- เกี่ยวกับการให้บริการท่าอากาศยาน และการอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่ผู้ที่ใช้บริการท่าอากาศยาน แต่เดิมใช้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คือ “การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” แต่ปัจจุบันตาม พ.ร.บ. ฉบับล่าสุด (พ.ศ.2538) ปรับจากรัฐวิสาหกิจเป็น “บริษัทมหาชนจำกัด”</span> </span></h2></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-4390506710126038392011-02-10T11:32:00.000-08:002011-02-10T11:32:00.865-08:00บทที่9 ผลกระทบของอุสาหกรรมการท่องเที่ยว<span style="font-size: large;"><span style="color: #cc33cc; font-size: 180%;">บทที่9<br />
ผลกระทบของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว</span></span><span style="color: #6666cc;">ผลกระทบจากท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจ</span><br />
ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากนักท่องเที่ยวย่อมกระจายไปสู่ธุรกิจต่าง ๆ มากน้อยแตกต่างกัน รายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวออกมาในรูปแบบของเม็ดเงินเด่นชัด เป็นทียอมรับว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนสถานที่ใดก็ตามจะต้องมีการจ่ายเพื่อเป็นค่าบริการ<br />
<span style="color: #993399;">ด้านบวก</span><br />
ช่วยทำให้เกิดรายได้แก่ท้องถิ่นภายในประเทศ (Local Income)<br />
ช่วยทำให้เกิดรายได้ต่อรัฐบาล (Government Receipt)<br />
ช่วยให้เกิดการจ้างงาน (Employment)<br />
ช่วยให้เกิดอาชีพใหม่ (Creating new job)<br />
ช่วยให้เกิดรายรับเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange Earning)<br />
ช่วยให้เกิดภาวะดุลชำระเงิน (Balance of Payment)<br />
<span style="color: #cc33cc;">ด้านลบ</span><br />
เราอาจเห็นว่าผลกระทบที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจในงาบวกทั้งสิ้น ซ฿งถ้าเราพิจารณาในแง่ลบแล้วจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน<br />
ค่าครองชีพของคนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น (Increase of Living Expenses)<br />
ราคาที่ดินแพงขึ้น<br />
มีค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติ<br />
ทำให้สูญเสียรายได้ออกนอกประเทศ<br />
รายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ เป็นไปตามฤดูกาล<br />
<span style="color: #6600cc;">ผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อสังคม</span><br />
เมื่อมีการพัฒนาการท่องเที่ยวไปยังแหล่งใดก็ตาม ย่อมมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในสถานที่นั้น ๆ ซึ่งมีการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น ผลที่ตามมาก็มีทั้งด้านดีและด้านลบ แม้ว่าผลกระทบด้านนี้จะเป็นเรื่องที่ยากเพราะอาจมีลักษณะเป็นนามธรรม<br />
<span style="color: #cc66cc;">ด้านบวก</span>เป็นการพักผ่อนหย่อนใจของบุคคล ลดความเครียด<br />
ช่วยให้เกิดสันติภาพแห่งมวลมนุษย์และช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลในชาติต่างๆ<br />
ช่วยให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละท้องถิ่น<br />
มาตรฐานการครองชีพดีขึ้น<br />
คนในท้องถิ่นได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น จากสาธารณูปโภคและสาธารณูปการในแหล่งท่องเที่ยวและบริเวณใกล้เคียง<br />
<span style="color: #cc33cc;">ด้านลบ</span><br />
ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคนในท้องถิ่นจากนักท่องเที่ยว<br />
โครงสร้างครอบครัวเปลี่ยนแปลง<br />
การเลือนหายของอาชีพดั้งเดิมในท้องถิ่น<br />
ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม<br />
ปัญหาโสเภณีและCommercial sex<br />
การมีค่านิยมผิดๆ จากการเลียนแบบนักท่องเที่ยว<br />
ปัญหาการบิดเบือนหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว<br />
ปัญหาความไม่เข้าใจและการขัดแย้งระหว่างคนท้องถิ่นกับนักท่องเที่ยว<br />
ช่วยให้เกิดการก่อสร้างสิ่งดึงดูดใจด้านการพักผ่อนในพื้นที่<br />
ปัญหาสังคมต่างๆ อาทิ ยาเสพติด โรคเอดส์<br />
การท่องเที่ยวช่วยให้เกิดสันติภาพแห่งมวลมนุษย์<br />
“การท่องเที่ยวเป็นหนทางไปสู่สันติภาพ”<br />
(Tourism is a passport to peace)<br />
ช่วยให้สภาพแวดล้อมของท้องถิ่นดีขึ้น<br />
ช่วยเสริมอาชีพให้คนในท้องถิ่น การกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น การจ้างงาน ทำให้คุณภาพชีวิตคนดีขึ้น<br />
การท่องเที่ยวจะช่วยลดปัญหาการอพยพเข้าไปทำงาน<br />
ในเมืองหลวง<br />
<span style="color: #6633ff;">ผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อวัฒนธรรม</span><br />
เราไม่สามารถปฏิเสธว่าสังคมและวัฒนธรรมเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ด้วยปัจจัยต่างๆทำให้เกิดขึ้นโดยฌพาะอย่างยิ่งการติดต่อสัมพันธ์กันปัจจุบันโลกกลายเป็นยุคโลกาภิวัฒน์การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็วกว้างไกล<br />
<span style="color: #993399;">ด้านบวก</span><br />
เกิดงานเทศกาลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว วัฒนธรรมถูกรื้อฟื้นหรือไม่เลือนจางหายไป<br />
มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและนักท่องเที่ยวนิยมมากขึ้น<br />
ช่วยเผยแพร่National Identity(............ลักษณ์ประเทศ)<br />
ผลกระทบอื่นๆ<br />
<span style="color: #ff99ff;">ด้านลบ</span><br />
คุณค่าของงานศิลปะลดลง<br />
วัฒนธรรมประเพณีที่ถูกนำเสนอขายในรูปแบบของสินค้าเน้นตอบสนองนักท่องเที่ยว<br />
วัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวมีบทบาทในการรับวัฒนธรรมใหม่ (Acculturate) ของคนในท้องถิ่น<br />
เกิดภาวะตระหนกและสับสนทางวัฒนธรรม (Culture Shock)<br />
การยอมรับพฤติกรรมและเลียนแบบพฤติกรรมนั้น (Demonstration Effect)<br />
การยอมรับพฤติกรรมและเลียนแบบพฤติกรรม(Demonstration Effect)<br />
คนพื้นถิ่นมีโอกาสพบปะกับนักท่องเที่ยว และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เข้ามา เช่น ชาวเขาย่อมแต่งชุดชาวเขาดั้งเดิม แต่พอนักท่องเที่ยวเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อมาเยี่ยมชมมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่าชาวเขาบางส่วนสวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดแทนที่จะใส่ชุดชาวเขา<br />
ผู้หญิงในหมู่บ้านนุ่งผ้าซิ่นทอเอง ต่อมาความเจริญมีขึ้นเรื่อย ๆ ก็กลายเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปแทนวิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-27616498194607430012011-02-10T11:30:00.000-08:002011-02-10T11:30:28.047-08:00บทที่8 ธุรกิจอื่นๆ และองค์ประกอบเสรืมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<h3 class="post-title entry-title">บทที่8 ธุรกิจอื่นๆและองค์ประกอบเสริมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว </h3><div class="post-header"><div class="post-header-line-1"></div></div><div class="post-body entry-content">การดำเนินธุรกิจให้บริการแก่นักท่องเที่ยว นอกจากจะตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวอันจะทำให้เกิดความพึงพอใจแก่นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการยังได้รับผลกำไรจากการประกอบการธุรกิจเป็นสิ่งตอบแทน นอกจากนี้ บางโอกาส ธุรกิจท่องเที่ยวเองกอาจเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวได้<br />
<div><div><div><div><div><div><div><div><div><div><div>นอกจากธุรกิจหลักซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีธุรกิจอื่นๆดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการบริการด้านต่างๆแก่นักท่องเที่ยว เช่น การบริการด้านอาหารเครื่องดื่ม สถานบันเทิง ร้านขายของที่ระลึก ศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแหล่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้โดปกติเอกชนจะเป็นผู้จัดสร้างและดำเนินการในรูปแบบของผู้ประกอบการ แต่ก็มีบางแห่งที่รัฐบาลให้การสนับสนุนดำเนินการ<br />
<div><div><div><div><div></div><div>นอกจากธุรกิจขนส่ง ธุรกิจที่พักแรม และธุรกิจบริการจัดนำเที่ยว ถือว่าเป็นธุรกิจหลักในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจจำหน่ายสินค้าและธุรกิจจำหน่ายินค้าที่ระลึก ธุรกิจนันทนาการ ตลอดจนธุรกิจเสริม ได้แก่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารและการตลาด รวมถึง การบริการด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในด้านต่างๆอีกด้วย</div><div></div><div></div><div></div><div>ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม<br />
Food and Beverage</div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511460832726812050" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjnEtzuZNpwpe_DGkxdknE-d8jzUQoTFh2JmulEFOCqCwwTbiTlSpLtaLPwaIqsA8uNjWdlnDzbFxGPhZdGxthrH2iulo0tuLqkH3vqaYOA024e-bJBN2UkUK0tQoRphycMUYSE1T_uv4VJ/s400/livia002.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 302px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /> </div><div>หมายถึง การประกอบกิจการให้การให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่คนเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไป โดยจัดเตรียมที่นั่งให้ผู้บริโภคได้รับประทานภายในสถานที่ที่ให้บริการ หรืออาจให้บริการบรรจุอาหารเพื่อให้ผู้บริโภคนำรับประทานที่อื่นได้<br />
</div><div>ความเป็นมา<br />
-สมัยกรีก-โรมัน มีการขายอาหารในระหว่างการเดินทางไปประกอบกิจกรรมทางศาสนาและการค้า ในสมัยโรมัน มีการเปิดร้านอาหารแบบ Snack Bars ( ที่มาของธุรกิจอาหารจานด่วน –Fast Food)<br />
-ยุคกลาง จำนวนร้านอาหารมีเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่มีคุณภาพ<br />
-ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เกิดแนวคิดเรื่องธุรกิจที่พักอย่างจริงจัง ทำให้การบริการอาหารมีผลกระทบไปด้วย ในศตวรรษที่ 16 มีการนำเข้าชาและกาแฟ ทำให้เกิดห้องดื่มกาแฟ ( Coffee House) และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรป<br />
-ค.ศ. 1765 เกิดธุรกิจอาหารแบบภัตตาคารที่ฝรั่งเศส โดยนายบลูลองเจอร์ (Monsieur Boulanger) เปิดร้านขายซุป ที่ชื่อว่า Restorantes ซึ่งต่อมากลายเป็นที่มาของคำว่า ภัตตาคาร (Restaurant) ซึ่งเน้นการบริการอาหารประเภทกับแกล้มหรืออาหารเบาๆ (Light or Restoring Dishes)<br />
-ค.ศ. 1782 มีภัตตาคารที่แท้จริงชื่อว่า Grande Taverne de Londres ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส<br />
-ในอเมริกา มีภัตตาคารแห่งแรกชื่อ Delmonico และร้านอาหารราคาถูก( Eating House) ในนิวยอร์ค ในปี ค.ศ. 1827 และ 1848 ตามลำดับ<br />
-ธุรกิจร้านอาหารในยุคหลังๆ มีความหลากหลายมากขึ้นทั้งรูปแบบและประเภทของอาหาร อาทิเช่น McDonald ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1948 </div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511462296983407618" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhMbafPGjEfMwfEAyeqCm4OyGF9n13B_HN47JI7bSAF6PrZmbvL8cYkApD4SPsNWrph1KTqqGu7BvEdax4xahRHdwJp-SonOAP20RguN6ui5WvUvFXDCfkrXjxtLuZey1eLagLdpseyZrBm/s400/1167517267.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 248px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div></div><div>ประเทศไทย<br />
-ยุคแรก เนื่องจากคนไทยนิยมประกอบอาหารไว้รับประทานเองในครัวเรือน ไม่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน แต่สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จะมีชุมชนอยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง และมีการค้าขายอาหาร ขนมหวานกันภายในชุมชน ดังที่ปรากฏในคำให้การขุนหลวงหาวัด โดยเฉพาะในชุมชน จีน แขก สำหรับเครื่องดื่มมึนเมาต่างๆ ก็ได้รับการนำเข้ามาจากตะวันตกเพื่อส่งให้ยังราชสำนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยอยุธยาตอนกลาง<br />
-ยุคสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ร้านอาหารที่เปิดส่วนใหญ่เป็นของชาวจีนที่เปิดในย่านสำเพ็งให้บริการแก่ชาวจีนและประชาชนทั่วไป<br />
-สมัยรัชกาลที่ 4-ปัจจุบัน ประชาชนมีอิสระจากการเลิกระบบทาสและไพร่ ผู้คนมีอิสระในการดำเนินชีวิต ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยุคนั้นดำเนินควบคู่ไปกับโรงแรม ปัจจุบันธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มได้เกิดขึ้นโดยทั่วไป<br />
<br />
<br />
ประเภทของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511463425643937602" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh975U5YCLJC5ujxrjIgoZkfQUNDuRN9uY4dpbAVCaDNPiFjR14eknkbvRUdfyjEkOX4TTjNOfz5Up86jN-O2wT2vuuX10a-AnkZKOyU8M37e-bZ87o4kLYiKawoNffgiC31HSmk6ElB4Gi/s400/fastfood.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 247px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 350px;" />ธุรกิจอาหารจานด่วน ( Fast-Food Restaurants )<br />
-เน้นความสะดวก รวดเร็ว ราคาต่ำไม่บริการเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์เปิดบริการทุกวัน ไม่จำเพาะเจาะจงแต่ร้านที่ดำเนินการแบบการรับรองสิทธิ(Franchising) แต่หมายรวมถึงอาหารตามเชื้อชาติอื่นๆ ที่บริการในรูปอาหารจานเดียว<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511464392013809922" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgRU35-BK5pdwwXZZ3h4YfC_j4VQoWqwlhg_clVtMxgyATp4D_iUNGBkbyox88U-Mc64HUHqNsjvbTdiTmYsT-qPQ0uFjGgECWKYdF-w9xRMLQ4SifzKCzqrobGLwHU99zGEyoS7efgR95_/s400/6.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 269px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป (Deli Shops)<br />
-เป็นการบริการอาหารสำเร็จรูปที่แช่แข็ง เนย แซนวิช สลัด และอื่นๆ ที่นั่งในร้านมีจำกัดและระยะเวลาเปิดไม่ยาวนัก มักตั้งอยู่ในทำเลที่ผู้คนหนาแน่น </div><div><br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511465284877077218" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKNY9QE2CbQcU9HKPrmMT55-Aa9UB8YXznjXfOPVuzzq65ypHoRxqoX7jmrBwtRGE01NxfZjoXVpyTe5SlqFLBN4Tkw__FmIz8K1mNV0neViBqpjui5g6Yw4MKS_4LsMuy8GoZgoFVEjh_/s400/viking2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 305px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /></div></div><div></div><div>ธุรกิจอาหารบุฟเฟต์ (Buffets)<br />
-เป็นธุรกิจที่ให้ลูกค้าบริการตนเอง ลูกค้าสามารถตักอาหารได้ทุกประเภท ในปริมาณที่ไม่จำกัด “All you can eat” ในราคาเดียว/หัว ยกเว้นแต่เครื่องดื่มที่จะบริการให้ที่โต๊ะ ธุรกิจประเภทนี้ได้รับความนิยมในโรงแรม โดยเฉพาะการจัดบริการอาหารในมื้อเที่ยง และค่ำ สำหรับลูกค้าภายในและภายนอก<br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511467986966930850" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUrwuSAL2QZsaX1StswZ-c40HOVHt8cpYvKjSREgFhO_9HtLCAmZk1PiWJN1qDgtqb68lagiOV3oXLOEdd6IsZ0R95D71IKnJEZE1b6YoCiX0f6EcTiaTBPNalpRfNYbfCQSSQebjGM3iw/s400/coffee-shop-456.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 400px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 267px;" /><br />
<div>ธุรกิจประเภทคอฟฟี่ช้อพ (Coffee Shops)<br />
-เน้นการบริการที่รวดเร็ว การให้บริการอาหารจะอยู่ที่เคาน์เตอร์บริการ ราคาไม่แพงมาก มักจะตั้งอยู่ในสถานที่ชุมชน อาคารกึ่งสำนักงาน หรือศูนย์การค้า ที่มีคนผ่านไปมาจำนวนมาก<br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5511469951116006530" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg7RxOJocKLoLAVG8vjwptN03mEyTnMwX8bufknV_CHbo9nszY2OU5RZj4i281VcEyLYQ9oY-nSmJUXOkOFSE_K7wziMOWvt6lPWO91j-rXsCbPMi3OV_AwEKo4PJu-vHRNi2KCrEsLREh2/s400/cafeteria.gif" style="cursor: hand; display: block; height: 206px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>ธุรกิจคาเฟทีเรีย (Cafeterias)<br />
- เป็นธุรกิจที่ลูกค้าต้องบริการตนเอง รายการอาหารมีจำกัด เน้นความรวดเร็ว สถานที่ให้บริการกว้างขวางเพื่อรองรับลูกค้าจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน </div><br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515174038946781394" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiQuIO0dKSego0igvNro0GL-PAi6-4K-qjBERzPigSdmZg1Z96cCtPMZIVjv8Gyk7XVGZbIzgfTRuEM1flIXQ0T13C3wHtjYJY6y3FZGTPdVv-1wyLMDngNh4uNPtZOwFBQ7pkLzGFPo0h3/s400/gourmet.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 400px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 390px;" /><br />
<div>ธุรกิจร้านอาหารกูร์เมต์ (Gourmet Restaurants)<br />
-เป็นธุรกิจที่เน้นบริการในระดับสูงในทุก ๆ ด้าน เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการการบริการระดับสูง เป็นธุรกิจที่ใช้ทุนค่อนข้างมากเพื่อรักษาชื่อเสียง และรักษารวมทั้งดึงดูดกลุ่มลูกค้า</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515174897052914546" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDQ_yrs3MXoJGsQaw99f-bE2t-S40XorsuZs7maiQll3p-Qlqv6PLNUMKZexCWSRt7zFvznNDZrl0RFXUD3fRySzdq5yKZRNEKNpFtNxwsLMENzC2VzdBtDRZIeJxnFGGRERLwl5qeiwD-/s400/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 266px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
ธุรกิจอาหารเฉพาะกลุ่มเชื้อชาติ(Ethic Restaurants)<br />
-เน้นการให้บริการอาหารประจำท้องถิ่น หรือประจำชาติ พนักงาน การตกแต่งร้านก็มีลักษณะเน้นจุดเด่นลักษณะประจำชาติเช่นเดียวกัน</div><div></div><div><br />
อาหารไทย ( Thai Food)<br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515176263195697778" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhIVX_EAMIRJYyW5-DH-EWxiyw3liw4GruXqk0y1vGiPYIKGlNp0p2EiFUixR7yMwpq399WFVQFCxFvjfiT1-MWJ5IigZrAQS6vFPFGh7Ot2Mld0RF1IAnrr_Z0DGN-yzWqQEIFigG1f3Nt/s400/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A21.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 300px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>จะมีรสชาติผสมผสาน มีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เครื่องเทศต่างๆ มักใช้กะทิเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร แบ่งออกเป็น<br />
1. อาหารที่ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ เช่น เครื่องแกง เครื่องเทศ จากอินเดีย การผัดโดยใช้น้ำมันมาจากประเทศจีน ของหวานจำพวก ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง มาจากโปรตุเกส เป็นต้น<br />
2. อาหารที่ต้องใช้ความประณีตในการประดิษฐ์ อาทิเช่น การแกะสลักผักผลไม้ ขนมช่อม่วง ลูกชุบ ข้าวแช่<br />
3. อาหารที่มีเครื่องเคียงของแนม อาทิ น้ำพริกต่างๆ น้ำปลาหวานสะเดา<br />
4. อาหารว่างและขนม อาทิ กระทงทอง บัวลอย ขนมลืมกลืน ขนมขี้หนู ข้าวตังหน้าตั้ง ขนมสอดไส้ เป็นต้น<br />
<br />
ภาคเหนือ</div><div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515176247904376114" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8nvxzYugvYOLAO1DgvKJ-dgmZkw-XHsMCu-FZ4Ub8ArtpLv208mXmQdnBnzfP1Oo3ZeUm3YN8i9wRhPDV4wcdF04ms_UytexX26wjrTMpFYatDCbxRRl6W0NRO7p1qUpdn6H8NfMDeyA1/s400/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 267px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /></div><br />
เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาหารส่วนใหญ่จะยังคงใช้พืชตามป่าเขา หรือที่เพาะปลูกไว้มาปรุงอาหาร โดยมีแบบเฉพาะในการรับประทานเรียกว่า “ขันโตก” อาหารทางเหนือไม่นิยมใส่น้ำตาล เพราะความหวานจะได้จากพืชผักต่างๆ จากการต้ม การผัด อาหารภาคเหนือที่รู้จักกัน อาทิ น้ำพริกหนุ่มมีเครื่องแนมคือแคบหมู ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงฮังเล ไข่มดส้ม เป็นต้น </div><div></div><div><br />
<div>ภาคใต้ </div><div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515178697750665618" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi_8SFDeJex6zHEXOM2eID7tNStQCSdf6dDJz3I522Xb79mCYsWpqVef5jozx4U4aVZJow3B4YeKah8nygPaOlPM4MA1j7M02QbHIPZaOyAiTy1FT6twmQpRCZZKZG2C1ImhaL1zLdB7HVn/s400/%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 252px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 335px;" /></div><div><br />
</div><div>เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ติดทะเล อาหารหลักมักเป็นอาหารทะเล พวกกุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งโดยปกติจะมีกลิ่นคาว จึงมักใช้เครื่องเทศและขมิ้นเพื่อดับกลิ่น จึงมีรสเผ็ดร้อน เค็ม และเปรี้ยว แต่ไม่นิยมรสหวาน มีอาหารหลายประเภทที่นิยมรับประทานกับผักเพื่อลดความเผ็ดร้อน เรียกว่า “ผักเหนาะ” หรือ “ผักเกร็ด”<br />
อาหารทางภาคใต้ที่นิยมรับประทาน ได้แก่ ข้าวยำปักษ์ใต้ แกงไตปลา แกงเหลือง เป็นต้น</div><div></div><div>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ </div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515176255164078514" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgYyyCBpc81pOhhuL5iCjH8uUS5hU8h2AulTcN6V5-BKSiact0aFGOz4_IWb-_9v2oTR9Fjib70caZNLm8HGhnXNMT3zM8en-1-_gkFFrzUnlmPp56osc5MejUGVvQQgrSBq-aKtJ4tAkDk/s400/%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B3.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 359px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศที่ร้อน ภูเขา ป่าไม้มีน้อย ดินเป็นดินร่วนปนทราย เก็บน้ำไม่ได้ดี แต่มีผักพื้นบ้านต่างๆ อาทิ ผักหูเสือ แคป่า ผักจิก นิยมเลี้ยงสัตว์ประเภทวัว ควาย ดังนั้นจึงนิยมบริโภคเนื้อสัตว์เหล่านี้ สัตว์อื่นๆ ที่มีในธรรมชาติก็นำมาประกอบอาหารเช่นกัน อาทิ มดแดง ตั๊กแตน แมงดานา โดยทั่วไปอาหารจะมีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว เค็ม จึงมีการถนอมอาหารในรูปแบบต่างๆ อาทิ ปลาร้า เนื้อเค็ม เป็นต้น<br />
อาหารที่เป็นที่นิยม อาทิ ส้มตำต่างๆ แกงอ่อม ต้มเปรอะ<br />
</div><div>การดำเนินงานด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Service Operations) </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515908339425551186" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6jAyCkBeym3QSN0seMJnCh7x_1K1TlXpWGGG9kMH4ud2K2Wq7qxXUEQTK7iumeZII_fuwsmuVESA0ZTHOPTth1a7lgB2IxoQYOh1uFl6gaX5XCO6nfK-9NzDr4HjoUsDYmJxFlI8WR2dS/s400/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 324px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /></div><div></div><div>การดำเนินงานด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มที่จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบกลุ่มธุรกิจ หรือการขอรับสิทธิในการดำเนินธุรกิจเพราะประสบความสำเร็จในระดับสูงอยู่แล้ว เนื่องจาก<br />
-มีประเภทของอาหารไม่มาก ทำให้เกิดอำนาจในการต่อรองในการซื้อวัตถุดิบและมีการสูญเสียน้อย การควบคุมทำได้ทั่วถึง<br />
- ต้นทุนในการดำเนินงานต่ำ<br />
-ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของพนักงานสูง เพราะมีการฝึกอบรมเป็นอย่างดี<br />
-ภาชนะใส่อาหารมักเป็นแบบใช้ครั้งเดียว ลดภาระเรื่องการล้างทำความสะอาด<br />
-มีความชำนาญด้านอาหารเป็นอย่างดี</div><div><br />
</div><div>สำหรับอาหารที่มีไว้บริการในโรงแรม ส่วนมากเป็นแบบตะวันตก แบ่งเป็นมื้อได้ดังนี้ </div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515908773618520322" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh8qokoXfl0HMXU_tbvTaWwmuv-y0vdHTrwc_Pf0vUT8TJCJalvOurINmsHFjBOFimf3cvEQNhBx6XqVRKvhOSKnzdpw-q6nF51D8VknRZNgbCPcc0TKWvuuQkU9mjxq0yrXlO_QXBjzAle/s400/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%81.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 333px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 333px;" /><br />
<div>อาหารเช้า Breakfast คืออาหารที่รับประทานช่วง 8.00-9.00 น.<br />
-อาหารเช้าแบบยุโรป (European Breakfast) ประกอบด้วยน้ำผลไม้ ขนมปัง แยม หรือเนย กาแฟน ไม่มีเนื้อสัตว์และผลไม้<br />
-อาหารเช้าแบบอเมริกัน (American Breakfast) ประกอบด้วย น้ำผลไม้ คอร์นแฟลก ขนมปัง ไข่ดาว แฮม เบคอน แล้วตามด้วย ชา กาแฟ<br />
<br />
อาหารก่อนกลางวัน (Brunch) รับประทานช่วงเวลา 9.30-11.30 น. หนักกว่ามื้อเช้า</div><div>อาหารกลางวัน Lunch or Luncheon รับประทานในช่วง 11.30-14.00 น.เป็นอาหารที่ไม่หนักจนเกินไป ใช้เนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น ปลา หมู ผักต่างๆ อาจเป็นแบบ A La Carte คือรายการที่ลูกค้าสามารถสั่งได้ตามใจชอบจากรายการที่มี หรือ Table d’Hotel คือแบบรายการอาหารชุด แบ่งเป็น<br />
-อาหารจานเดียว (One Course)<br />
-อาหารกลางวันประเภทสองจาน (Two Courses)<br />
-อาหารกลางวันประเภทสามจาน (Three Courses)<br />
-อาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ (Buffet Lunch)<br />
<br />
อาหารว่างหรืออาหารน้ำชา (Afternoon Tea) ปกติรับประทานเวลา 15.00-17.00 น. ชากาแฟ เค้ก หรือ ผลไม้</div><div></div><div>อาหารเย็น ( Dinner) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นอาหารมื้อที่หนักที่สุดของวัน ประกอบด้วยอาหารชุดต่าง ๆ ดังนี้<br />
-อาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer)<br />
-ซุป (Soup)<br />
-อาหารนำจานหลัก (Entress) ประเภทอาหารทะเล<br />
-อาหารหลัก (Main Course) ได้แก่อาหารประเภท เนื้อสัตว์ แป้ง<br />
-ของหวาน (Dessert)<br />
-ชาหรือกาแฟ (Tea or Coffee)</div><div>อาหารมื้อดึก (Supper) เป็นอาหารเบาๆ ซึ่งรับประทานหลังมื้อเย็นหรือหลังอาหารหนัก </div><div></div><div></div><div></div><div>การจัดการและการตลาด (Management and Marketing)<br />
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าธุรกิจอื่นๆ ประกอบกับภาวการณ์แข่งขันมีค่อนข้างสูง ผู้ประกอบการต้องพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยใช้หลักการตลาดและส่วนผสมทางการตลาดในทุกๆ ด้านดังนี้<br />
1. ด้านผลิตภัณฑ์ (product) ต้องมุ่งเน้นที่คุณภาพของอาหารและบริการ ต้องมีคุณค่าทางโภชนาการและถูกหลักอนามัย<br />
2. ด้านราคา (price) ต้องเป็นราคาที่เหมาะสมกับชนิดและประเภทของอาหาร โดยต้องคำนึงถึงคุณภาพ ต้นทุน การให้บริการ ต้องหมั่นสำรวจตลาด และคู่แข่งเสมอ </div><div>3. ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย (place) ต้องรู้ว่าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยวิธีใด อาทิสถานที่ตั้ง บริการส่งถึงที่ เป็นต้น<br />
4. การส่งเสริมการขาย (promotion) ควรเลือกสื่อและโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด รวมทั้งการประสานงานกับบริษัทนำเที่ยว หรือตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบิน องค์กรการท่องเที่ยวต่างๆ หรืออาจมีการรวมกลุ่มเป็นสมาคม อาทิ สมาคมภัตตาคาร (restaurant association) </div><div><br />
</div><div></div><div>ธุรกิจจำหน่ายสินค้าและสินค้าที่ระลึก Shopping and Souvenir Business </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515913290191527442" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjbupj99kgIV8_Jy8u_XldLVtlQUTXVZ5zNzwJyvHRPPOmABNspJ-aBh7eUQQO968gCVuZQJ94on-nRqLco8dbWaUi2lwnmrjMQs0aiFAjby2BxFFl_TZ-zXg9PGS-nNcGYrAR3Y81HZZmw/s400/%E0%B8%B2%E0%B9%80.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 276px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /></div><div></div><div>ธุรกิจจำหน่ายสินค้า คือ การประกอบธุรกิจขายปลีก เพื่อจำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่างหรือหลายอย่างแก่ผู้บริโภค ซึ่งหมายถึงบุคคลทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยว<br />
ความเป็นมา<br />
การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าในสมัยโบราณจะกระทำในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนระหว่างของกับของ หรือที่เรียกว่า Barter System ต่อมาเมื่อมีการนำเอาใช้โลหะมีค่า มากำหนดค่าและใช้เป็นสื่อกลางของการซื้อขายแลกเปลี่ยน ระบบBarter System จึงค่อยๆ เลิกไป</div><div></div><div>สถานที่ที่เกิดกิจกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า<br />
อาจมีพัฒนาการมาตั้งแต่การซื้อขายแลกเปลี่ยนเมื่อมีผู้ที่มีความต้องการสินค้า และผู้ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการนั้น อาจไม่จำกัดสถานที่ เมื่อมีทั้งผู้ต้องการสินค้า และผู้ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการนั้นมีเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดบริเวณที่สามารถรวมเอาทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเป็นจำนวนมากมาไว้ที่เดียว หรือ ตลาดเพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการเลือกซื้อสินค้า<br />
ห้างสรรพสินค้า เป็นรูปแบบของธุรกิจการจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นจากยุโรปก่อนแล้วค่อยแพร่ขยายเข้ามาสู่ อเมริกา และเอเชียในที่สุด เป็นพัฒนาการของการจำหน่ายสินค้าที่รวมมาอยู่ในบริเวณเดียว มีการจัดสินค้าเป็นแผนก เป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นหาของลูกค้า มีการบริหารงานอย่างเป็นระบบ มีการส่งเสริมการขาย การบริการลูกค้า </div><div><br />
</div><div></div><div>ประเภทของธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการ </div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515911315148455426" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgj0oTK2e6bqYF6FWFbDmA97nGMfltMz0XrIU9NX8hTBLSrGmrgu-awSW-nIZyjgD045_j6PBkZGv00WgppbwLzYV8KCtkmZOsf4NLd3KbrnSIVikS4NJUCLwM9mFnVE8BgFbIeQjSlbWFU/s400/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 271px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>ห้างสรรพสินค้า ( Department Store) หมายถึงกิจการขายปลีกขนาดใหญ่ที่รวมสินค้าหลายอย่างเข้ามาไว้ภายในบริเวณเดียวกัน โดยแยกตามแผนก เพื่อเป็นการประหยัดเวลาของลูกค้า มีการปรับเปลี่ยนสินค้าให้ทันสมัยและเหมาะสมตลอดเวลา หรือในบางครั้งห้างสรรพสินค้า อาจขายสินค้าไม่กี่ชนิด เพื่อเป็นการเน้นความเชี่ยวชาญ โดยส่วนมากห้างสรรพสินค้ามักตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน<br />
ห้างสรรพสินค้ายังมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และได้ทำให้หลายๆ ประเทศพยายามพัฒนาภาพลักษณ์ให้เป็นสวรรค์ของการซื้อสินค้า ( Shopping Paradise)<br />
<br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515914327003888210" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh8OFx-WmNvSgbOuT7GMxZBFOq4dm7JiAdjJS-MFyPWU0sYgPjrnhi9P5xh5IWnNJ0w-xnWG4tz1e6jdeeRGl8OWXdm5KVE4kfBP7k4liLuYGwzYa9wa-Xwcq9184DreNh-OdpgiAdP9hpo/s400/%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 300px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
ศูนย์การค้า (Shopping Centers/Malls) คือการขายปลีกขนาดใหญ่ที่รวมร้านขายปลีกรวมทั้งห้างสรรพสินค้าเข้ามาอยู่ในอาคารเดียวกัน ตลอดจนบริการที่จอดรถตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อาทิ โรงภาพยนตร์ ธนาคาร ภัตตาคาร<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515915504635472914" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj_PKeJVtCmihOgy-tebVn9gw_ths9wvNS-M-HQYGrRVLIx_OOY8k5UsBllotX8pPFuB-zQyHObiR2cSiK8ZrbFXtQaslYTU8SWJS2jzHFlKQad-9ecMkPCn7FRpPK48tAzmR1fQ9lkluz5/s400/16AugKP_DOWNTOWN.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 195px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
ร้านค้าปลอดอากร (Duty-free shop)และร้านปลอดภาษี (Tax-free shop) เป็นร้านค้าปลีกที่ขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเท่านั้น โดยสินค้าในร้านปลอดอากรนั้น มักเป็นสินค้าปลอดอากรที่นำเข้าจากต่างประเทศราคาสูง แต่ขายถูก และสินค้าในร้านปลอดภาษีมักเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศ<br />
</div><div>ความสำคัญของธุรกิจจำหน่ายสินค้า<br />
1.เป็นแหล่งกระจายสินค้าภายในประเทศออกไปยังต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการช่วยเผยแพร่ชื่อเสียง หรือโฆษณาแหล่งท่องเที่ยว อาทิเช่น ผ้าไหม น้ำหอม เป็นต้น</div><div>2.กิจกรรมการซื้อสินค้าเป็นการสร้างความเพลิดเพลินให้แก่นักท่องเที่ยว<br />
3.ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมท้องถิ่น<br />
4.ก่อให้เกิดการจ้างงานของคนในท้องถิ่น</div><div><br />
</div><div>ธุรกิจสินค้าที่ระลึก </div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515914338278861426" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5MrebKsDMrr8iAsBfQoPh-PJdENW1RBojDIldf8TmsPCwWyMjygwDyYs0rt1OygPNNVQUACCmqWtzQ1ybfyrCXiQfyK2wKlq8IsuPgxF4sFbJ9uG-1YeHJAqEHBPy9hzYjU_opzlFeu2j/s400/ChinatownNightMarket01.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 192px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" />คือ การประกอบธุรกิจและจำหน่ายสินค้าที่นักท่องเที่ยวซื้อและนำกลับไปยังภูมิลำเนาเดิมของตน เพื่อเป็นของระลึก ของฝาก หรือแม้แต่เพื่อใช้สอยในชีวิตประจำวัน สินค้าที่ระลึกมักถูกพัฒนาจากศิลปหัตถกรรมของแต่ละท้องถิ่น ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ ความเป็นอยู่ โดยใช้วัสดุของท้องถิ่นในการผลิตและใช้แรงงานภายในท้องถิ่น<br />
<br />
<br />
<div>ลักษณะสำคัญของสินค้าที่ระลึก</div><div>- เป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ เมื่อเอ่ยถึงทุกคนสามารถเดาที่มาได้<br />
- เป็นสินค้าที่หายากและราคาแพง มีแหล่งผลิตเฉพาะที่<br />
- เป็นสินค้าที่มีราคาถูกกว่าภูมิลำเนาของนักท่องเที่ยว<br />
- เป็นสินค้าที่ออกแบบผลิตภัณฑ์แปลกและมีประโยชน์ใช้สอย<br />
- เป็นสินค้าที่มีรูปร่าง ขนาด น้ำหนัก เหมาะสมต่อการขนส่ง ไม่เปราะบางหรือชำรุดง่าย<br />
- เป็นสินค้าที่ใช้วัสดุและแรงงานในท้องถิ่น เป็นสินค้าที่นำวัสดุเหลือใช้ไร้ค่ามาแปรรูป<br />
- เป็นสินค้าที่มีการแสดงขั้นตอนการผลิตให้นักท่องเที่ยวเห็นหรือทดลองทำ<br />
- เป็นสินค้าที่ควรหาซื้อได้ง่าย</div><div><br />
ประเภทของธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของไทย</div><div><br />
แบ่งจากจุดประสงค์ในการสร้าง ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ที่ต้องการใช้สอยเอง หรือเพื่อพิธีกรรมทางศาสนา ความเชื่อ หรือเพื่อจัดจำหน่าย ทำให้ผลผลิตมีรูปลักษณะที่แตกต่างกันสามลักษณะได้แก่<br />
- รูปลักษณะที่สร้างขึ้นตามประเพณีนิยม<br />
- รูปลักษณะที่สร้างขึ้นตามสมัยนิยม<br />
- รูปลักษณะที่สร้างขึ้นเฉพาะ </div><div><br />
แบ่งจากวัสดุและเทคนิควิธีการสร้าง มีสามลักษณะได้แก่<br />
- สร้างหรือดัดแปลงจากวัสดุธรรมชาติ - สร้างจากวัสดุสังเคราะห์<br />
- สร้างจากเศษวัสดุ<br />
<br />
แบ่งจากรูปลักษณะที่ปรากฏ มีหกลักษณะได้แก่<br />
- รูปลักษณะตัวอักษร<br />
- รูปลักษณะทรงเรขาคณิต<br />
- รูปลักษณะตามลัทธิและความเชื่อ<br />
- รูปลักษณะธรรมชาติ<br />
- รูปลักษณะผลผลิตและเครื่องมือเครื่องใช้<br />
- รูปลักษณะอิสระ </div><div><br />
แบ่งตามคุณค่าแห่งการนำไปใช้<br />
- ประเภทบริโภค - ประเภทประดับตกแต่ง<br />
- ประเภทใช้สอย - ประเภทวัตถุทางศิลปะ</div><br />
<div></div><div>ความสำคัญของธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึก </div><div><br />
ทางสังคมและวัฒนธรรม<br />
-สร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับคนในสังคม และการใช้เวลาว่างของประชาชนให้เกิดคุณประโยชน์<br />
-ลดปัญหาสังคม และลดปัญหาการย้ายถิ่นฐาน<br />
-การรู้จักอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่น และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า </div><div><br />
ทางเศรษฐกิจ<br />
-สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประเทศ<br />
-สร้างชื่อเสียงหรือเอกลักษณ์ของประเทศไปสู่โลก<br />
<br />
ทางระบบการท่องเที่ยว<br />
-ทำให้เกิดความสมบูรณ์ทางการท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มความสุนทรีย์ ในการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการกลับมาเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง<br />
-ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความภูมิใจ หรือเป็นการสร้างการยอมรับทางสังคม เป็นการแสดงออกถึงฐานะทางเศรษฐกิจ</div><br />
<div>ธุรกิจนันทนาการ (Recreation Business) </div><div>หมายถึง การประกอบธุรกิจการให้บริการเพื่อความบันเทิงและเพลิดเพลินสำหรับคนเดินทางหรือนักท่องเที่ยว</div><div>ธุรกิจนันทนาการประกอบด้วย </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5515917162567706946" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj1zkWB4-qrcy_ZiBn1dQnQ0lSEAXZymULWiavO6ZBYRwa7tu7TD1Tp20Q22Mykq5H4osQayR5M2BLcM_pq-WWeJcxhg0GA7-aTh3hqqpM4GCs6BGXXl6IzXHYwCkH2Tz1f2hc9K4f5Piiz/s400/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%811.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 247px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>ธุรกิจสวนสนุก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท<br />
- สวนสนุก (Amusement Park) เป็นสถานที่ที่สร้างเพื่อให้บริการด้านความบันเทิง สนุกสนานเพลิดเพลิน ประกอบด้วย เครื่องเล่นเกม การละเล่นต่างๆ ของคนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว<br />
- สวนสนุกรูปแบบเฉพาะ (Theme Park) เป็นสวนสนุกที่มีสิ่งดึงดูดใจและมีแนวคิดทางการตลาดที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน<br />
<br />
ธุรกิจบันเทิง เพื่อการท่องเที่ยว หมายถึง สถานบันเทิงยามค่ำคืนและการจัดการแสดงบนเวที (Performing art)</div><div>ธุรกิจการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว<br />
ธุรกิจกีฬาปกติ เป็นการจัดให้บริการสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นกีฬาได้ตามแหล่งท่องเที่ยว<br />
ธุรกิจกีฬาตามเทศกาล เป็นการประกอบธุรกิจการจัดแข่งขันกีฬาตามเทศกาล</div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-77607850834467210752011-02-10T11:27:00.000-08:002011-02-10T11:27:28.069-08:00บทที่7 ตัวแทนจำหน่ายการท่องเที่ยว<div><div align="center"><span style="color: red; font-family: arial; font-size: 180%;"><span style="font-size: x-large;"><strong>บทที่7<br />
ตัวแทนจำหน่ายการท่องเที่ยว</strong></span></span><div><span style="font-size: x-large;"><br />
</span></div><span style="font-size: x-large;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516378477446934130" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4c_4rVrnI/AAAAAAAAAWw/Kt7nfpVhypY/s320/1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 213px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516379541629735746" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4d91ESk0I/AAAAAAAAAW4/XTlqiuqeIGo/s320/2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 231px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span><span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: times new roman;">ประเภทของธุรกิจนำเที่ยว แบ่งตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ปี พ.ศ. 2535 มี 3 ประเภทได้แก่</span></strong></span><ol><li><span style="color: magenta;">ธุรกิจนำเที่ยวเฉพาะพื้นที่ : เป็นการจัดนำเที่ยวในจังหวัดที่ดำเนินธุรกิจนำเที่ยวและ จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกัน </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ : เป็นการจัดนำเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศ : เป็นการจัดนำเที่ยวไปยังต่างประเทศ นำนักท่องเที่ยวต่างประเทศเที่ยวในประเทศไทยทั่วราชอาณาจักร และนำนักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวภายในประเทศไทยทั่วราชอาณาจักร</span></li>
</ol><strong><span style="font-family: times new roman; font-size: 130%;"><span style="color: magenta; font-size: large;">แทรเวล เอเจนซี่ <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516379888910896674" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4eSCykjiI/AAAAAAAAAXA/tW-NZxVQdOs/s320/5.png" style="cursor: hand; display: block; height: 214px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516380091634540770" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4ed1_p4OI/AAAAAAAAAXI/iBW3_Gp-iY4/s320/4.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 262px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> </span></span></strong><br />
<span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: times new roman; font-size: 130%;"><span style="font-size: large;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516387052517795554" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4kzBTjJuI/AAAAAAAAAYg/OkpN1B9XMEo/s320/11.gif" style="cursor: hand; display: block; height: 217px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span></span><span style="font-family: times new roman;">บทบาทหน้าที่ของแทรเวล เอเจนซี่</span></strong> </span><ul><li><span style="color: magenta;">จัดหาราคาหรืออัตราสินค้าทางการท่องเที่ยว </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ทำการจอง </span></li>
<li><span style="color: magenta;">รับชำระเงิน </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ทำการส่งบัตรโดยสารหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเกินทาง </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวอื่นๆ </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ช่วยดำเนินการในการซื้อบัตรโดยสาร </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ออกบัตรโดยสารเครื่องบินและเอกสารอื่นๆ</span></li>
</ul><div><span style="color: magenta;"><span style="font-family: verdana;"><span style="font-family: times new roman;"><strong>ประโยชน์ของการใช้บริการของ แทรเวล เอเจนซี่</strong></span></span> </span></div><ul><li><span style="color: magenta;">มีความชำนาญในการหาข้อมูลและวางแผนการท่องเที่ยว </span></li>
<li><span style="color: magenta;">สามารถหาข้อเสนอหรือราคาที่ดีที่สุด </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ช่วยประหยัดเวลาและความลำบาก </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ช่วยแก้ปัญหาได้เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือปัญหา </span></li>
<li><span style="color: magenta;">รู้จักผู้ประกอบธุรกิจมากกว่า </span></li>
<li><span style="color: magenta;">รู้จักแหล่งท่องเที่ยวดีกว่า</span></li>
</ul><span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: times new roman;">ประเภทของแทรเวล เอเจนซี่</span></strong> จะมีลักษณะคล้ายกันคือมีขนาดเล็กและเป็นธุรกิจของครอบครัวและให้บริการแก่ลูกค้าที่อยู่ในทำเลใกล้เคียง มี 4 ประเภท </span><br />
<ol><li><span style="color: magenta;">แบบที่มีมาแต่เดิม </span></li>
<li><span style="color: magenta;">แบบที่ขายทางอินเติร์เน็ต </span></li>
<li><span style="color: magenta;">แบบที่ชำนาญเฉพาะทาง </span></li>
<li><span style="color: magenta;">แบบที่ประกอบธุรกิจจากที่พัก</span></li>
</ol><span style="color: magenta;">บริษัททัวร์ (Tour Operator) ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่จัดทำโปรแกรมทัวร์แบบเหมาจ่าย ให้กับลูกค้าผ่านทางแทรเวล เอเจนซี่<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516380718265562114" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4fCUYIdAI/AAAAAAAAAXY/zXqadpxeYhw/s320/9.gif" style="cursor: hand; display: block; height: 290px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516380928641681042" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4fOkFtRpI/AAAAAAAAAXg/I3zWTo1MU-8/s320/10.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span><br />
<span style="color: magenta;">บริษัททัวร์จะทำสัญญากับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆๆ ได้แก้ โรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน จากนั้นจึงขายไปยังลูกค้าโดยตรงหรือผ่านทางแทรเวล เอเจนซี่</span><br />
<span style="color: magenta;"><span style="font-family: times new roman;"><strong>ประโยชน์ของการใช้บริการของบริษัททัวร์</strong></span> </span><br />
<ol><li><span style="color: magenta;">ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ประหยัดค่าใช้จ่าย </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ได้ความรู้ </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ได้เพื่อนใหม่ </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ได้ความสบายและรู้สึกปลอดภัย การเดินทางไปกับทัวร์จะทำให้รู้สึกสบายใจว่ามีมัคคุเทศก์คอยดูแลและรู้สึกปลอดภัย </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ไม่มีทางเลือกอื่น อาจทำให้หาที่พักได้ยาก นักท่องเที่ยวจึงหันมาซื้อโปรแกรมทัวร์</span></li>
</ol><strong><span style="font-family: times new roman;"><span style="color: magenta;">ประเภทการทัวร์ ทัวร์แบบเหมาจ่ายเป็นประเภทใหญ่ๆได้3 ประเภท</span></span></strong><br />
<ol><li><span style="color: magenta;">ทัวร์แบบอิสระ (Independent tour) </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ทัวร์แบบไม่มีผู้นำเที่ยว (Hosted tour) </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ทัวร์แบบมีผู้นำเที่ยว (Escorted tour)</span></li>
</ol><span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: times new roman;">การจัดทัวร์แบบอื่นๆ เช่น</span></strong> </span><br />
<ul><li><span style="color: magenta;">การจัดทัศนาจร (Day Tour) หมายถึง โปรแกรมทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวเดินทางโดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงเช่น การท่องเที่ยวชมเมือง </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ทัวร์แบบผจญภัย (Adventure Tours) เช่น การไปดำน้ำ การไปล่องแพ การไปเดินป่าเป็นต้น</span></li>
</ul><span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: times new roman;">บริษัทรับจัดการ ณ แหล่งท่องเที่ยว (Destination Management Company or DMC)</span></strong></span><br />
<br />
<span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516384308195753682" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4iTR6L_tI/AAAAAAAAAXo/kHRKn-fG-QU/s320/14.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 216px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516384736484258354" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4isNaH8jI/AAAAAAAAAXw/Z4emrs_NBNY/s320/15.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span><span style="color: magenta;">ททท.ให้คำจำกัดความดังนี้ “บริษัทที่ดำเนินจัดการเรื่องการขนส่งภาคพื้นดิน การจัดงานเลี้ยง โรงแรมและนำเที่ยวให้แก่กลุ่มท่องเที่ยวแบบที่ได้รับรางวัล (Incentive Group) </span><br />
<span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: trebuchet ms;">DMC มีความความเชี่ยวชาญดังนี้</span></strong> </span><br />
<ul><li><span style="color: magenta;">บริการขนส่งภาคพื้นดิน จองห้องพัก ห้องอาหารและห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม บริการจัดงานเลี้ยงนอกสถานที่ จัดกิจกรรมพิเศษ เช่น นันทนาการ กลุ่มสัมพันธ์ </span></li>
<li><span style="color: magenta;">บริษัทเอกชนต่างๆ นิยมติดต่อบริษัทรับจัดการ ณ แหล่งท่องเที่ยวให้ดำเนินการจัดการท่องเที่ยวให้ดำเนินการจัดการท่องเที่ยวให้กับกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวแบบที่ได้รับรางวัล</span></li>
</ul><span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: times new roman;">บริษัทรับจัดการประชุม (Meeting Planner)</span></strong> <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516385398339037778" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4jSvAmalI/AAAAAAAAAYA/umU2jrr9C8A/s320/18.gif" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 218px;" /> <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5516385705640917234" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TI4jknzE-PI/AAAAAAAAAYI/9a-vjrQnDFI/s320/20.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 241px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
ตลาดการประชุมทั้งในและนอกประเทศเติบโตสูงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจึงเกิดธุรกิจจัดประชุม ซึ่งธุรกิจนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายที่สำคัญของธุรกิจโรงแรมและมีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ </span><br />
<ul><li><span style="color: magenta;">เลือกสถานที่สำหรับการประชุม จองห้องพัก </span></li>
<li><span style="color: magenta;">วางแผนด้านอาหารและเครื่องดื่ม </span></li>
<li><span style="color: magenta;">วางโปรแกรมสำหรับผู้เข้าประชุมและผู้ติดตาม </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ประสานงานกับผู้จัดการประชุมของโรงแรม </span></li>
<li><span style="color: magenta;">บริการด้านการเดินทางและขนส่ง </span></li>
<li><span style="color: magenta;">วางแผนด้านการรักษาความปลอดภัยหรือแก้ไขวิกฤต </span></li>
<li><span style="color: magenta;">ประเมินผลงานเมื่อการประชุมสิ้นสุดลง </span></li>
</ul><span style="color: magenta;"><strong>**Destination Management Company: DMC</strong> : เป็นบริษัทที่ดำเนินจัดการเรื่องการขนส่งภาคพื้นดิน การจัดเลี้ยง โรงแรมและนำเที่ยวให้แก่กลุ่มท่องเที่ยวแบบที่ได้รับรางวัล (Incentive Tour) </span></div></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-61095787055055215582011-02-10T11:25:00.000-08:002011-02-10T11:25:32.582-08:00บทที่6 ที่พักแรม<div align="center"><span style="color: #330099; font-family: arial;"><strong>บทที่ 6 ที่พักแรม</strong></span><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506363194664021746" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqIJs477vI/AAAAAAAAAUQ/ME6KLzvPIWQ/s320/29.png" style="cursor: hand; display: block; height: 239px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506363262823670418" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqINqzdopI/AAAAAAAAAUY/780IHeUU8Lw/s320/30.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
<span style="font-family: arial;"><strong>ความเป็นมาของธุรกิจที่พักแรมในต่างประเทศใน ทวีปยุโรปและอเมริกา</strong></span><br />
<div align="justify"></div><div align="justify">ที่พักแรมเกิดจากความต้องการของนักเดินทางที่ไม่มีที่พักอาศัย ไม่สามารถไป-กลับได้ ในเวลาหนึ่งวัน รูปแบบที่พักพัฒนาตามความเจริญของเศรษฐกิจ ระบบขนส่งคมนาคมยุคแรกของที่พักแรมนั้น ให้เพื่อบริการการพักผ่อนเท่านั้น ต่อมากลายเป็น Coaching Inn ที่พักตามเส้นทางถนนและได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษ๓ ศตวรรษที่ ๑๘ รูปแบบที่พักได้เจริญเติบโตขึ้น บริเวณสถานีปลายทางและเมืองท่า มีการออกแบบให้เป็นโรงแรมรถไฟ (Railway Hotels) ช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงเมืองตากอากาศได้สะดวกมากขึ้น ที่พักแบบตากอากาศ หรือรีสอร์ท (Resort) จึงขยายตัวมากในยุโรปและอเมริกา</div><span style="font-family: arial;"><strong>โรงแรม (Hotel) </strong></span><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506364158102231634" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqJBx-gWlI/AAAAAAAAAUg/s3BvcnqDaAQ/s320/31.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 213px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506364231870273682" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqJGEyLWJI/AAAAAAAAAUo/bpMg8U-v9uI/s320/32.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 213px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> <br />
<div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong>โรงแรม</strong></span> เป็นประเภทธุรกิจที่พักแรมในปัจจุบัน คำว่า Hotel มาจากภาษาฝรั่งเศส ดังนั้น แบบแผนการดำเนินงานการโรงแรมมาตรฐานสากลส่วนใหญ่ ล้วนมีต้นแบบจากประเทศในยุโรปและอเมริกากลุ่มโรงแรมที่สำคัญ ได้แก่ Intercontinental, Holiday Inn, Marriott, Sofitel, Hilton, Conrad, Sheraton, Hyatt, Le Meridien เป็นต้น<br />
</div><span style="font-family: arial;"><strong>ความเป็นมาของธุรกิจที่พักแรมในประเทศไทย</strong></span><br />
<div align="justify"><span style="font-family: arial;">สมัยอยุธยาเพื่อบริการพ่อค้า ทูต ผู้เผยแพร่ศาสนา บริเวณวัดเสาธงทองตั้งอยู่ระหว่างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี พระวิหารเดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุเหร่า ตามแผนที่ของฝรั่งเศสระบุว่า เป็นที่พักของชาวเปอร์เซียสมัยรัตนโกสินทร์เพื่อบริการนักเดินทางชาวตะวันตก อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวตะวันตกเข้ามาจำนวนมาก ในปี พ.ศ. ๒๔๐๖ ถนนเจริญกรุงตอนใต้จึงเป็นย่านที่พักของชาวตะวันตกในกรุงเทพฯยุคแรก</span></div><span style="font-family: arial;"><strong>กิจการโรงแรมที่สำคัญในอดีตของประเทศไทย</strong></span> <br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506365660615009202" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqKZPRd47I/AAAAAAAAAUw/3nqhgJdFrH0/s320/33.1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 240px;" /><span style="font-family: arial;"><strong></strong></span><br />
<div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong>1) โอเรียนเต็ลโฮเต็ล</strong></span> สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยกลาสีเรือชาวต่างชาติ เป็ยเพียงอาคารไม้ชั้นเดียว ปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมมาตรฐานสากลชั้นนำแห่งหนึ่ง</div><br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506366895869984034" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqLhI9M_SI/AAAAAAAAAU4/hPTko-P2SGY/s320/34.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 225px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 300px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506367091210427106" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqLsgp_muI/AAAAAAAAAVI/F70SpnPXzHg/s320/34.2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 273px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506367213481377234" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqLzoJqPdI/AAAAAAAAAVQ/gPZIoivfMX0/s320/34.1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 235px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 312px;" /><span style="font-family: arial;"><strong></strong></span><br />
<div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong>2) โฮเต็ลหัวหิน หรือ โรงแรมรถไฟหัวหิน</strong></span> สร้างในสมัยพระ บาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดให้บริการตามแบบโฮเต็ลในยุโรป ต่อมาให้เอกชนปรับปรุง และเช่าดำเนินกิจการ เป็นโรงแรมโซฟิเทลหัวหิน ปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมมาตรฐานสากลชั้นนำแห่งหนึ่ง<br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506368168786120290" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqMrO8DzmI/AAAAAAAAAVY/4sWUMH1VvbM/s320/35.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 202px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> <br />
<div align="justify"><br />
<span style="font-family: arial;"><strong>3) โฮเต็ลวังพญาไท</strong></span> สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยปรับปรุงจากพระราชวังพญาไท(เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ใช้เป็นที่รับรองแขกเมือง ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้งดงาม ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญ ตั้งอยู่บริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า</div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506368993102432562" src="http://1.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqNbNwYiTI/AAAAAAAAAVg/4hxDkjKp-J4/s320/36.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 240px;" /><br />
<span style="font-family: arial;"><strong>4) โรงแรมรัตนโกสินทร์</strong></span> สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระอานันทมหิดล บนถนนราชดำเนินกลางใกล้สะพานผ่านพิภาพลีลา ใช้รับรองแขกเมืองสำคัญ และเป็นที่ชุมนุมของชาวสังคมยุคนั้น ต่อมาให้เอกชนเช่าดำเนินการเปลี่ยนชื่อเป็น โรงแรมรอยัล ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่กลุ่มโรงแรมภายในประเทศไทยที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มดุสิตธานี, เซ็นทรัล, อมารี, อิมพีเรียลพระราชบัญญัติโรงแรม ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้ระบุว่า "โรงแรม" คือ สถานที่ที่พัก จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทางธุรกิจ ให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทาง โดยมีค่าตอบแทนและไม่คิดเป็นรายเดือน<br />
<br />
<span style="font-family: arial;"><strong>ปัจจัยพื้นฐานในการบริการที่พักแรม</strong></span> <br />
<ul><li>ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ำพัก </li>
<li>ความสะอาดและสุขอนามัยในสถานที่พัก </li>
<li>ความสะดวกสบายจากบริการสิ่งอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของผู้พัก </li>
<li>ความเป็นส่วนตัว </li>
<li>บรรยากาศตกแต่งสวยงาม </li>
<li>ภาพลักษณ์ของกิจการ และอื่นๆ </li>
</ul><span style="font-family: arial;"><strong>แผนกงานในโรงแรม</strong></span><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506371172280003794" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqPaD0zbNI/AAAAAAAAAVo/LqXhytRGhqA/s320/37.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 220px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506371376972605154" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqPl-XUpuI/AAAAAAAAAVw/fnEUieRyK8E/s320/37.1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 300px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 300px;" /><br />
1. แผนกงานส่วนหน้า เป็นศูนย์กลางการติดต่อระหว่างโรงแรมและแขกผู้พัก<br />
2. แผนกงานแม่บ้าน การจัดเตรียมห้องพักแขก ทำความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ ซีกรีด จัดดอกไม้<br />
3. แผนกอาหารและเครื่องดื่ม รับผิดชอบเรื่องอาหารและการบริการอาหาร เครื่องดื่ม<br />
4. แผนกขายและการตลาด รับผิดชอบวางแผนตลาดเพื่อสร้างรายได้แก่ธุรกิจ<br />
5. แผนกบัญชีและการเงิน ดูแลจัดทำบัญชีและควบคุมการเงินของโรงแรม<br />
6. แผนกทรัพยากรมนุษย์ ในบางกิจการขนาดเล็ก จะเป็นแผนกบุคคล<br />
<br />
<span style="font-family: arial;"><strong>ประเภทห้องพัก</strong></span><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506372495606396786" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqQnFmZt3I/AAAAAAAAAV4/5c8V79cj3ZE/s320/38.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
<span style="font-family: arial;"><strong>1. ห้องพักสำหรับนอนคนเดียว</strong></span> ในต่างประเทศ จะเป็นห้องพักเตียงเดี่ยว<br />
<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506373194297672898" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqRPwbYhMI/AAAAAAAAAWA/tLcwNO3-YzA/s320/39.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
<span style="font-family: arial;"><strong>2. ห้องพักเตียงคู่แฝด</strong></span> ประกอบเตียงเดี่ยว ๒ เตียง ตั้งเป็นคู่วางแยกกัน <br />
<br />
<span style="font-family: arial;"><strong><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506375190899580082" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqTD-WX3LI/AAAAAAAAAWI/9oP0Vp0dlOw/s320/40.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 225px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 300px;" /></strong></span><br />
<span style="font-family: arial;"><strong>3.ห้องพักเตียงคู่ที่เป็นเตียงเดียวขนาดใหญ่</strong></span> สำหรับนอนได้ ๒ คน บางครั้งให้บริการแก่ผู้พักที่มาคนเดียว เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506377728334019106" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqVXrB4uiI/AAAAAAAAAWQ/iejyvFsB64Y/s320/41.1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 240px;" /> <img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506378119684431538" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGqVuc7GHrI/AAAAAAAAAWY/bVRA4gDv-Ug/s320/41.2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 282px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
<span><span style="font-family: arial;"><strong>4.ห้องชุดที่ภายในประกอบด้วยห้องตั้งแต่ ๒ ห้องขึ้นไป</strong></span> </span>โดยกั้นเป็นสัดส่วนแบ่งเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น ในโรงแรมมาตรฐานชั้นดีตามแบบสากลมักมีห้องชุดที่ตกแต่งสวยงาม บริการในอัตราราคาสูงวิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-8074159984622905692011-02-10T11:17:00.001-08:002011-02-10T11:17:11.662-08:00บทที่5 การคมนาคมขนส่ง<h3 class="post-title entry-title">บทที่5 การคมนาคมขนส่ง </h3><div class="post-header"><div class="post-header-line-1"></div></div><div class="post-body entry-content"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507438159138773602" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-b2OQeUEVCW-2eE-DlSTpV59-vtfFvl1ZmuJbhfqErqgzjDivkItvJGZrw8BzRg05gdxMYnTPo0D5BTVAHRRhk8i0zDNdY-bb2e7RWRQHhMdWrp9nTbTa3sPfK0AvMwQwaU7Qcqp2B8AS/s400/158-4123.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 238px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 355px;" /><br />
<div><div><div>การคมนาคมขนส่ง จัดว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญทีช่วยให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวไปได้อย่างกว้างขวาง และถือได้ว่าเป็นธุรกิจหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ นอกจากนี้อาจกล่าวได้ว่า การคมนาคมขนส่งเป็นธุรกิจที่มีผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<br />
<br />
การคมนาคมขนส่ง หมายถึง กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายคน สัตว์ สิ่งของ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยสื่อกลางต่างๆภายใต้และราคาที่ตกลงกันไว้<br />
· เป็นกิจกรรมที่ต้องมีการขนส่ง (คน สัตว์ สิ่งของ) จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง<br />
· การขนส่งนั้นต้องอาศัยอุปกรณ์ต่างๆ (ยานพาหนะ)<br />
· การขนส่งนั้นต้องเป็นไปตามความต้องการของผู้ที่ต้องการใช้บริการ </div><div><br />
<div></div><div><br />
พัฒนาการขนส่งทางบก </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507439875861630658" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhIy_55PBi_GGxmipH1gUG-SeXuoHyOnJToap_1ZELcO-jKDL0Gy1anCFLKeBERbLIw1f2gEA05QnsZ9R2rFlWpYEHmGLan8LqvjJqyciVVftvDK7PZ6vl_idozG-KUv_X7jnXa1cNfRO6g/s400/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 400px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 267px;" /><br />
- เริ่มขึ้นสมัยยุคบาบิโลน (200 ปีก่อนคริสตกาล)<br />
- มีการประดิษฐ์รถม้าโดยสารขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ<br />
- ต้นศตวรรษที่ 18 มีการประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาการขนส่งทางเรือและรถไฟ<br />
- ปี ค.ศ. 1920 มีการคิดค้นและประดิษฐ์รถยนต์ขึ้น ปัจจุบันนี้ การเดินทางโดยรถยนต์ถือได้ว่า เป็นการเดินทางท่องเที่ยวทางบก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก<br />
<br />
<div><br />
พัฒนาการขนส่งทางน้ำ </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507440628467889874" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgItOkFhyphenhyphenQe5UBpYaI49mzkOubSWomuwa5W0lWw0GLvinGKHp-RMyfN7OyzeEjWBCUQ3uYCNNQALQ1Pi_L6-_Eg4bTJDR-KDHblptEA-y8ajgzFcFgiRwAL-HIQI8jWK48jJkGzh7A4r1ut/s400/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 253px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- การขนส่งทางน้ำ เป็นการขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก<br />
- ประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีการพัฒนาเรือให้สามารถนำมาใช้หาปลาตามชายฝั่งในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน<br />
- ชาวฟินิเชียน ได้ใช้เรือในการเดินทางขนส่งทางน้ำเป็นครั้งแรก<br />
- การขนส่งผู้โดยสารทางเรือเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1772 ในประเทศอังกฤษระหว่างเมือง Manchester และ London Bridge<br />
- เรือสำราญ Princesses Victoria Louis เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และเป็นที่มาของเรือยอรซ์ราคาแพง<br />
- เรือที่สามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรเป็นครั้งแรกได้คือ เรือกลไฟ Savannah<br />
- บริษัท Star Curies เป็นสายการเดินเรือที่ใหญ่สายหนึ่งของโลก<br />
- ในประเทศไทย มีบริษัทเรือสำราญของคนไทย 2 บริษัท คือ บริษัทซีทราน ควีน กับ บริษัท สยามครูซ จำกัด<br />
- โดยเรือ Seatran Queen ให้บริการฝั่งอ่าวไทย ส่วนเรือ Andaman Prince ให้บริการในบริเวณอ่าวอันดามัน<br />
<br />
<div><br />
พัฒนาการขนส่งทางอากาศ </div><br />
<div></div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507440631019557698" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiueSXK9FBOcU75Dt-c__yz8Y01aP0ORuNx0D48OCHQRcKVWa5wyA_s7YKD1AuCRm-PKfjcmwH5gsQ5WOUJrDgUek4C7x-x3eZWhCeqVUk_XirAJC1_b0bY8OUomExt54Io_Ek_AsjLXFDN/s400/ARJ21_1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- สองพี่น้องตระกูล Wright ได้คิดค้นและประดิษฐ์เครื่องบินเป็นครั้งแรก<br />
- เที่ยวบินทางด้านธุรกิจเกิดขึ้นครั้งแรกระหว่างประเทศ London และ Paris<br />
- มีการจัดตั้งบริษัทสายการบินแห่งชาติ เช่น B.A. (British Airways ของอังกฤษ) AF (Air France) ของฝรั่งเศส LH (Lufthansa Germanของเยอรมัน)<br />
- เที่ยวบินให้บริการในการขนส่งผู้โดยสารได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างเมือง Boston และ New York และเริ่มมีการจ้างพนักงานบนเครื่องบิน </div><div><br />
</div><div></div><div><br />
ประเภทของธุรกิจการคมนาคมขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว<br />
1. ธุรกิจการขนส่งทางบก<br />
2. ธุรกิจการขนส่งทางน้ำ<br />
3. ธุรกิจการขนส่งทางอากาศ </div><div><br />
</div><div></div><div><br />
หลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจของทางด้านการขนส่ง<br />
1. ยานพาหนะควรเหมาะสมกับชนิดของการเดินทาง<br />
2. ยานพาหนะควรเหมาสมกับสภาพปริมาณของผู้โดยสาร<br />
3. ความสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้ประกอบการธุรกิจประเทศอื่นๆ เช่น สถานีต่างๆ สนามบิน เป็นต้น<br />
4. ยานพาหนะควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามลักษณะการเดินทางและชนิดของพาหนะ<br />
5. บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่บนยานพาหนะควรได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และบริการด้วยความเต็มใจ </div><div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507441056937927586" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjN49IZ_FEi1RCidUVn614z-PeU3peQp0O0crJKOe2VQz0KavQxl2gV2DUgT5EZLW7QG8x8o6gJcCwHSNJC728DM5kcAh1Voi35gq_gKxj415hMipCzkJlgpAmpRTLnX9JzeykSV296mEFI/s400/2954101163_7186920fa6_o.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 400px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 246px;" /></div><div></div><div><br />
</div></div></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-67671068869901798292011-02-10T11:15:00.000-08:002011-02-10T11:15:57.853-08:00บทที่4 องค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว<!-- google_ad_section_start(name=default) --><br />
<div class="date-outer"><h2 class="date-header">บทที่4 องค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว </h2><div class="date-posts"><div class="post-outer"><div class="post hentry"><div class="post-header"><div class="post-header-line-1"></div></div><div class="post-body entry-content"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507420738114347186" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh2bwu21ByEAOzOhMqXyDgfN-bXRA6bx_g3F56Y-Uv1umUlILhHZFZN2jyyOIC5gGm7BM3rV0sdZ3hNsd5JvZE8p1dAL3qMIY3cyEQ-9iKGaQAP0iNjfZPQ5l1x1J_JXveI8DrFLeFXSYOu/s400/images.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 321px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 428px;" /><br />
<div><div><div><div><div><div>แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ที่มีศักยภาพในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหรือประกอบกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนองตอบต่อจุดประสงค์ด้านความพึงพอใจ หรือด้านนันทนาการ อาจเป็นสถานที่ใดที่หนึ่งเฉพาะ หรือหลายๆ ที่ก็ได้ มีทั้งที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือเป็นแหล่งธรรมชาติ<br />
<div><div><div><div><div><div><div><div><div></div><div>ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว (Tourism Resources) หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งที่อยู่ในรูปธรรมและนามธรรม ซึ่งมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและประกอบกิจกรรมนันทนาการ อันนำมาซึ่งความพึงพอใจและความสุขในรูปแบบต่างๆ ได้ </div><br />
<div>จุดหมายปลายทาง (Destination)<br />
หมายถึง สถานที่ที่ใดที่หนึ่ง อาจจะเฉพาะเจาะจง หรืออาจจะเป็นสถานที่ ทั่วๆไป หรืออาจเป็นหลายๆ สถานที่ ต่อการเดินทางครั้งหนึ่ง </div><br />
<div>สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว (Tourist Attraction)<br />
หมายถึง สถานที่ที่มีศักยภาพในการดึงดูดให้ผู้คนเดินทางเข้าไปเยี่ยมชม หรือประกอบกิจกรรมเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจ </div><br />
<div>ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว </div><div></div><div>Scope ขอบเขต<br />
- Primary Destination<br />
- Secondary Destination </div><div></div><div>Owner ความเป็นเจ้าของ<br />
- Government<br />
- Non Profit Organization<br />
- Private </div><div></div><div>Permanency ความคงทนถาวร<br />
- Sites<br />
- Festivals or Events </div><div></div><div>Drawing Power ศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว<br />
</div><div>การแบ่งประเภทแหล่งท่องเที่ยว ตามการแบ่งของ ททท. </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507423244311759490" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpXMnDqhxR5x0aHX7d0jpJfZXOlxpIIWuXLhi8F61vGx0wu2piwk5C-wlP4vKqFeWErcsQSeXKF-AcMB9DBsss1gVxDxCqDN15TCJ9Hb22Sd-T27q4G3HSIVNWq9-AlO5zVrwrP9LaR4Js/s400/1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 301px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>แหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติ คือสถานที่ที่เกิดเองตามธรรมชาติทั้งทางด้านชีวภาพและกายภาพ รวมทั้งบริเวณที่มนุษย์เข้าไปปรุงแต่งเพิ่มเติมจากสภาพธรรมชาติในบางส่วน ทรัพยากรประเภทนี้ไม่ต้องมีต้นทุนทางการผลิต แต่ยังคงต้องมีต้นทุนในการรักษาดูแล อาทิเช่น ป่าไม้ เขื่อน ภูเขา น้ำตก ชายหาด ทะเล และเกาะแก่ง อุทยานแห่งชาติ (National Park) อุทยานแห่งชาติทางบก<br />
อุทยานแห่งชาติทางทะเล วนอุทยาน (Forest Park) </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507426543975439074" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiiTH1PjgVN60VPm6-SZpWcdsYCvNCbyaPIh2J93-YFjKZtsyjn2a7dwJmXzcMgRoKoXiroWILQ4-76-ZJqvOQoqiNZU_-KAbivzxu-nK-rgdgf0patz6w6Zmv15SuprxFxObN5ambpd7hi/s400/wchaib21.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 300px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div>แหล่งท่องเที่ยวประเภทมนุษย์สร้างขึ้น ประเภทที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ ศาสนสถาน โบราณสถาน โบราณวัตถุ และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ โดยมีวัตถุ ประสงค์ในการสร้าง และอายุ รวมทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไป แต่ท้ายที่สุดก็กลายเป็น ทรัพยากรอันมีค่าทางการท่องเที่ยวของประเทศ</div></div><div>กรมศิลปากรได้แบ่งโบราณสถานออกเป็น 7 ประเภทได้แก่<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507425234908717234" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhNCYlBfOdLxqJTTJVvWQDK5_inZ1NqMuLaFtuAj-bfXpRrKBtOm0GL2fBJMbvwn7cM7op2pGvL7jKT6_T1bru2bnLEynQTrMNTvvfmzW2rIj1cDG-Hgxojcu0KW0WY_1AVlD7ouqY1VaE2/s400/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 219px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /></div><div><br />
- โบราณสถานสัญลักษณ์แห่งชาติ คือ สถานที่ที่มีความสำคัญสูงสุด หากชาติขาดซึ่งโบราณสถานนี้ไปจะเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง </div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507425220998888722" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhpF6JzAxndsaPwMVwO7ww97ai1Hcfv_MKJ5hwhntlYgzEbZaKQKZmcuiMP-zn4Dj3gTYzkCUGqr5yupw6ey6IqXHr9AG2-16Wl7Jx_L6DN9glWLeekYx4bJdLSawpJoLl314jRO4fPdgBK/s400/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 327px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- อนุสาวรีย์แห่งชาติ คือ อนุสรณ์ที่ได้สร้างเพื่อบุคคลหรือเรื่องราวสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์หรือเป็นที่เคารพอย่างสูงในชาติ ซึ่งประชาชนจะต้องร่วมรำลึกถึงด้วยกัน<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507423479112948082" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjiGpjvsFgX-I4g_FKkNpIXW6i39L4log5QJRY-S_fWGZ5CfHj-kmjDoOB1cakHr8d38EhCHHQ_t4qU75mqxnvGnkqUy6p9sQsGr18PQ2EQ7eZNLioeNxQQ5Z6_LjvwEv7bXk-M-pszxbDN/s400/%E0%B8%B2%E0%B8%B2.bmp" style="cursor: hand; display: block; height: 297px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- อาคารสถาปัตยกรรมแห่งชาติ คือ อาคารสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอันทรงไว้ซึ่งคุณค่าอย่างสูงทางศิลปะ อันแสดงถึงการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆ ในยุคอดีตที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบันหรือเกี่ยวพันกับบุคคลสำคัญหรือเหตุการณ์สำคัญของชาติ </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507426538543982402" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjdI0uooMMsscfmhl7mHZFczvW_bXmtrUJIrFpGbreiuPH8as7pzvq2o39zboFRZ0J2HN3LwoWTb2YeJ7Y5vL7seyIrO2ArIdH_ylNvaGyiszQYS_z81Hly3H4oGkqIwDnY8YDFemIJcZbt/s400/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%81.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 266px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- ย่านประวัติศาสตร์ คือ พื้นที่ที่มีความหนาแน่นทางสถาปัตยกรรมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ การวางผังเมือง และสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น โดยมีอาคาร สิ่งก่อสร้าง ถนนหนทางและองค์ประกอบอื่นๆ ในพื้นที่รวมอยู่ด้วย ทำให้พื้นที่นั้นจัดอยู่ในลักษณะต่อไปนี้ ย่านประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม ย่านประวัติศาสตร์การพาณิชย์ ย่านประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม ย่านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ย่านโบราณคดี<br />
<br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507429388665434370" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi4lSRRs6lPzIW56-KcemllCqb8xoggSYBhvAB46vq61wVdaXa2hmd7Xd3Vz8Gxw-PmTBt8inxeGDIvaM4gYoq0UZwG9KAmZ3kQPgGG3Bugzn7JXtt1D-ElRFMmfPaGPk5HS4d7ar3foOLz/s400/DSC0246811.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 289px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ หมายถึงพื้นที่ที่มีเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมรวมกับสภาพแวดล้อมทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น อันทำให้สาระทางประวัติศาสตร์ยังคงดำรงไว้ได้ </div><br />
<img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507430853138056306" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhk4QmWSTEzEl5G3lz_LWGQCswxHpDmRWuclYAIh1sd2jRZqJN-WiMjoPyMIze41owJSMvxtZyMiSH9knu1ZkAuf-ttRNIuSPl8cdVHREHiSmJgyqQK10i3jpeXqRTjwSj9quU8kwitu53A/s400/01662_17.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 246px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
<div><div>- นครประวัติศาสตร์แห่งชาติ คือ หมายถึง เมืองหรือนครที่มีแบบอย่างทางวัฒนธรรม การวางผังเมือง สาระสำคัญทางประวัติศาสตร์ และองค์ประกอบของเมือง สถาปัตยกรรม วิศวกรรม และชีวิตความเป็นอยู่<br />
<br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507431450015742994" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiq7ToDREH3bcjox6Js9MtYogUS5niGweM1vPFvA02v_pWOGfBkUsryOEc4CR7VuO8jyjjtGB_l9cFrt0EjG5ZjiiBf_62TKvRxbWlyMwbbJQWHYrAJOxXJIaBsyCgzUVIselU4XIchDXvM/s400/5.bmp" style="cursor: hand; display: block; height: 290px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
- ซากโบราณสถานและแหล่งโบราณคดีประวัติศาสตร์แห่งชาติ หมายถึง แหล่งโบราณคดีประวัติศาสตร์และซากโบราณสถาน ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงถึงประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งของชาติในอดีต<br />
<br />
แหล่งท่องเที่ยวประเภทศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและกิจกรรมของผู้คนในท้องถิ่น<br />
"วัฒนธรรม" หมายถึง "แบบอย่างหรือวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชนแต่ละกลุ่ม เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการอยู่ร่วม กันอย่างปกติสุขในสังคม" วัฒนธรรมแต่ละสังคมจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ และทรัพยากร ต่างๆ ลักษณะอีกประการหนึ่งของวัฒนธรรมคือ เป็นการสั่งสมความคิด ความเชื่อ วิธีการ จากสังคมรุ่นก่อน ๆ มีการเรียนรู้ และสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อๆ ไปได้ วัฒนธรรมใดที่มีรูปแบบ หรือแนวความคิดที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะเลือนหายไป วัฒนธรรมที่เป็นแนวความคิด ความเชื่อ เป็นนามธรรมล้วน ๆ แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ถือว่าเป็น ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว วัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถพัฒนาให้เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวได้</div><div><br />
มรดกโลก (World Heritage) ในประเทศไทย<br />
• มรดกโลกในประเทศมี 5 แห่งด้วยกัน คือ<br />
• ทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้ง ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1991 </div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507434284042835218" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjn68Bk8XObn3_R0T-_yVOjW1w4NzDehrrer8LmDxHV7ZyMpSdWEjoHiloBmO1I0yKXxJFsHPvg0eXr-3bubhKsQQIn3VQikAWZ_RXyRDA73b9EOMpN0ePNlbFV-tqconmxGytzjzG589E_/s400/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 300px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
• อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ปี ค.ศ. 1991 </div><div><br />
<div></div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507434291212316786" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg5dwytNlTPlMLTlBGe2cwRKgr-0s02IVmggfb6uNBO48onXidUjOo_Qgjcw4lKKtifw2PqTmiJCyZ37oMj-EuILStHWipB45E1AaECp5NMvxNdgsTxRJZ7Rqoqp7V8S8sJrSgtC_Vs-nPM/s400/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%82%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A2.gif" style="cursor: hand; display: block; height: 276px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
• อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ปี ค.ศ. 1991<br />
<div></div><br />
<div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507434280594487234" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgQ-0eAmU64yI44Ta0XfxAja8aRqJR1A0eXpt7ybgSyUsWLTT9jNER1XlrxQHHlJkhuHKFQIEQj2iUJQetsPmRQeztNU072jHxqrQ5zRKAjvQyHfmSX5WCB2L9qRiT_3eCCNU3YUlRJKV9_/s400/1136227144.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 300px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /><br />
• แหล่งขุดค้นโบราณคดีบ้านเชียง ค.ศ. 1992 </div><div></div><div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507435295972271938" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiIKOCqA79YgOgwAaohAoMQZvhtzXZTROhhzb9q4fCYvtHJTcoIlhxnXxIShKeZMYEkXaXoRjVPTXr-pZs8wg2SJUZLrWq-Uz1vdP9f2lyiPcMiLjv2Q-E-ezfF5JWoi_ET9lJ42WgAOawq/s400/Banchieng2.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 400px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 354px;" /><br />
• ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ปี ค.ศ. 2005<br />
<div><br />
</div><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5507434297767346002" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhcfFy5gqbMtQNNgVt56iXub5xgQqcgA8aQwQsgcY7rfMlbmjyAG8Wu3XOgkRUsZnMNnvWK2Ni195hivxUy2PkbZgFriughiDWFMuxDF3k9xkyxFxrWpfl8RV4U4ahyphenhyphend3VvzSymS4EyRdvQ/s400/1179553804.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 260px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 400px;" /> </div><div><br />
</div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-33094678329816080902011-02-10T11:10:00.000-08:002011-02-10T11:10:14.775-08:00<div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="color: #006600; font-family: arial;"><strong>บทที่3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางท่องเที่ยว</strong></span><br />
</span></div><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506332625533318306" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpsWWAOtKI/AAAAAAAAARg/tHhJRgs44_0/s320/10.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 240px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /><br />
<span style="font-family: arial;"><span><strong>แรงจูงใจแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว</strong></span></span> หมายถึง เครือข่ายทั้งหมดที่กำหนดพฤติกรรมการท่องเที่ยว เป็นแนวคิดทางด้านจิตวิทยาและสังคมวิทยา- พลังทางด้านจิตวิทยา คือ ความต้องการทำสิ่งต่างๆ เช่น อยากว่ายน้ำ อยากปีนเขา- พลังทางด้านสังคมวิทยา คือ ความอยากมีหน้ามีตาในสังคม อยากทันสมัย อยากดูมีระดับ</span><br />
<div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong><span style="color: magenta;">ทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวกับแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว</span></strong></span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">1. ทฤษฎีลำดับขั้นแห่งความต้องการจำเป็น(Hierarchy Of Needs)ของ Abraham Maslow- Maslow ได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความต้องการไม่สิ้นสุด ความต้องการที่เป็นตัวกระตุ้น<br />
2. ทฤษฎีขั้นบันไดแห่งการเดินทาง(Travel Career Ladder)ของLundberg- Lundberg ได้กล่าวไว้ว่า การท่องเที่ยวเกิดจากความต้องการขั้นสูงสุดเพื่อตอบสนอง</span></div><ul><li><div align="justify"><span style="color: magenta;">ความต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเอง</span></div></li>
<li><div align="justify"><span style="color: magenta;">ความต้องการพัฒนาบุคลิกภาพ</span></div></li>
<li><div align="justify"><span style="color: magenta;">ความต้องการทำสิ่งที่้ท้าทาย</span></div></li>
<li><div align="justify"><span style="color: magenta;">ความต้องการเห็นสิ่งที่แปลกใหม่</span></div></li>
</ul><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>แรงจูงใจวาระซ้อนเร้น (Hidden Agenda)ของCrompton มี 7 ปนระเภท</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">1. การหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมที่จำเจ<br />
2. การสำรวจและการประเมิตนเอง<br />
3. การพักผ่อน<br />
4. ความต้องการเกียรติภูมิ<br />
5. ความต้องการที่จะถอยกลับไปสู่สภาพดั้งเดิม<br />
6. การกระชับความสัมพันธ์ทางเครือญาติ<br />
7. การเสริมสร้างการสังสรรค์ทางสังคม</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>แรงจูงใจทางการท่องเที่ยวในทัศนะของ Swoarbroke มี ๖ ประเภท</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">๑. แรงจูงใจทางด้านสรีระ หรือ ทางกายภาพ<br />
๒. แรงจูงใจทางด้านวัฒนธรรม<br />
๓. การท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองความรู้สึกบางอย่าง<br />
๔. การท่องเที่ยวเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานภาพ </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">๕. แรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">๖. แรงจูงใจส่วนบุคคล</span></div><div align="center"><span style="color: magenta;"><br />
</span></div><div align="justify"><span style="font-family: arial;"><span style="color: magenta;"><strong>แนวโน้มของแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว</strong></span></span><div align="center"><span style="color: magenta;"><br />
</span></div><div align="center"><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506334757896921794" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpuSdrVIsI/AAAAAAAAARo/6M-HSZAGx74/s320/11.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 320px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span></div><div align="justify"><strong><span style="font-family: arial;"><span style="color: magenta;">Pearce, Morrison และ Rutledge (๑๙๙๘) ได้่นำเสนอแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวไว้ ๑๐ประการ ดังต่อไปนี้</span></span></strong></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">1.แรงจูงใจที่จะได้สัมผัสสิ่งแวดล้อม</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">2. แรงจูงใจที่จะได้พบปะกับคนในท้องถิ่น</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">3. แรงจูงใจที่จะ่เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นและประเทศเจ้าบ้าน</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">4. แรงจูงใจที่เสริมสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">5. แรงจูงใจที่จะได้พักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่สบาย</span></div><div align="center"><span style="color: magenta;"><br />
</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506336930054023538" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpwQ5l8KXI/AAAAAAAAARw/As0QdOJHJC0/s320/12.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 219px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" />6. แรงจูงใจที่ได้ทำกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสนใจและฝึกทักษะ</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">7. แรงจูงใจที่จะมีสุขภาพดี</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">8. แรงจูงใจที่จะได้รับการคุ้มกันและความปลอดภัย</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">9. แรงจูงใจที่จะได้รับการยอมรับและสถานภาพทางสังคม</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">10. แรงจูงใจที่จะให้รางวัลแก่ตนเอง</span></div><div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong><span style="color: magenta;">ปัจจัยทางภูมิศาสตร์</span></strong></span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">ลักษณะภูมิประเทศจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกซึ่งมีได้ ๒ ลักษณะ ๑) การเปลี่ยนแปลงภายในเปลือกโลก เช่น ภูเขา ภูเขาไฟ ที่เกิดจากการดันตัวของ ความร้อนใต้ผิวโลก ๑.๒ ลักษณะภูมิอากาศ สภาพอากาศที่ แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จะทำให้เกิดสภาพภูมิประเทศที่สวยงามต่างกัน และดึงดูดนักท่องเทียวต่างถิ่นเข้ามาท่องเที่ยวสถานที่นั้นๆได้มากขึ้น๒. ปัจจัยทางวัฒนธรรมคือ วิถีการดำเนินชีวิตของคนในสังคมและหลักเกณฑ์การดำเนินชีวิต ซึ่งมีการสืบทอดปฏิบัติต่อกันมา อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา ในแต่ละชาติจะมีวัฒธรรมที่แตกต่างกัน การท่องเที่ยวโดยอาศัยปัจจัยทางวัฒนธรรม จะก่อให้เกิดการเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆและเกิดการแลกเปลี่ยน นำไปสู่การเกิดวัฒนธรรมใหม่ๆ ทั้งดีหรือไม่ เกิดขึ้น</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">๒) การเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวโลก เช่น เนินทราย (Sand Dune) ในทะเลทรายเกิดจากลมพัดทรายมากองรวมกันเป็นเนิน</span></div><div align="center"><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506338079827842034" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpxT01YU_I/AAAAAAAAAR4/F7derSRb5YU/s320/13.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 204px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span></div><div align="center"><span style="font-family: arial;"><span style="font-size: large;">ภาพการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก </span></span></div></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-14553260466122399402011-02-10T11:06:00.000-08:002011-02-10T11:06:52.350-08:00ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวจากยุคเรื่มต้นถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2<div align="center"><span style="color: magenta;"><span style="color: red; font-family: trebuchet ms;">บทที่ 2 ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงช่วงหลัง</span><span style="color: red; font-family: trebuchet ms;">สงครามโลกคร้งที่ 2</span></span></div><div align="center"><span style="color: magenta;"><br />
</span></div><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506267015700951730" src="http://4.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGowrWVOMrI/AAAAAAAAAQw/1VkUC66qg40/s320/5.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 236px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 295px;" /> </span><br />
<div align="center"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ภาพที่ 1 พระเจ้าฮัมมูราบีของอาณาจักร บาบิโลเนียน</strong></span><br />
</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจสามารถย้อนไปได้ถึงสมัยอาณาจักร บาบิโลเนียน (Babylonian) และอาณาจักรอียิปต์ (Egyptian) หลังฐานที่สนับสนุนการกล่าวอ้างนี้ก็คือ ได้มีการก่อตั้งพิพิธณฑ์โบราณวัตถุ (Historic antiquities) </span></div><span style="color: magenta;"><br />
</span><br />
<div align="left"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>อาณาจักรอิยิปต์</strong></span> </span></div><div align="left"><span style="color: magenta;">หลักฐานก็คือได้มีการก่อตั้งพิพิธพัณฑ์โบราณวัตถุ(historic antiquities) เพื่อให้คนทั่วไปได้เข้าขมในนครบาบิโลน ชาวอิยิปต์เมื่อ2600 ปีมาแล้วก็มีการจัดงานเทศกาลด้านศาสนา และได้เคยใรการค้นพบข้อความท นักเดินทางชาวอิยิปต์ได้บันทึกไว้เมื่อ 2000 ปีก่อนคริสตกาลด้วยนักท่องเที่ยวชาวกรีกมีการ เดินทางเมื่อประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล นิยมเดินทางไปยังที่ที่เชื่อ ว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าที่ทำการบำบัดรักษา โรค และด้านกีฬาในช่วง 500 ปีก่อนตริสตกาล กรุงเอเธนส์ และมีที่พักแรมประเถทต่างๆ</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><strong><span style="font-family: arial;">อาณาจักรโรมัน</span></strong> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">ชาวโรมันมีการเดินทางอย่างกว้างขวางตั้งแต่ 3000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งนิยมเดินทางไปพักร้อนบนภูเขา และพากันไปเที่ยวที่อ่าวเมืองเนเปิล มีการสร้างบ้านพักและวิลล่าที่สวยงาม ชาวโรมันมีอำนาจในการซื้อมากและเป็นนักล่าของที่ระลึกชาติแรกๆของโลก ในสมัยอาณาจักรโรมัน มีทั้งการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ไร้พรมแดนไม่เหมือนในปัจจุบัน ทุกแห่งในตอนนั้นใช้เงินตราของโรมัน ภาษาละตินใช้กันอย่างกว้างขวาง </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>มัคคุเทศก์และคู่มือนำเที่ยวในยุคต้นๆ</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">หนังสือคู่มือนำเที่ยวปรากฎขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเอเธนส์ สปาร์ตา และเมืองทรอย ประกอบด้วยรายชื่อที่พัก หร้อมสัญลักษณ์บอกเกรดของที่พักเหล่านั้น </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>การท่องเที่ยวในยุคกลาง (ระหว่าง คศ.500-1500)</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">จากการล่มสลายของอาณาจักรโรมันหรือยุคมืด ช่วงเวลาดังกล่าวเศรษฐกิจตกต่ำ การเดินทางลำบากมากขึ้น อันตรายมากขึ้น วันหยดเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้คน ศาสนาโรมันคาทอลิกเป็นผู้กำหนดวันหยุดพักผ่อนให้กับผู้ คนที่ศรัทธาในศาสนา ซึ่งในปีหนึ่งมีวันหยุดเพิ่มมากขึ้นถึง 33 วัน คนชั้นสูงและกลางนิยมเดินทางเพื่อแสวงบุญและบันเทิงควบคู่ไปด้วย เช่นเมือง Winchester เพื่อขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้า ปัญหาคือเจอโจรดักปล้น มัคคุเทศก์จึงต้องทั้งนำทางและปกป้องผู้เดินทางด้วยค่าจ้างจึงแพงมาก เท่ากับครึ่งหนึ่งของเราคาอูฐหนึ่งตัว และเกิดร้านขายของที่ระลึกขึ้น ผลของการเดินทางเพื่อจารีกแสวงบุญ คือ การแสวงบุญ, ความหมายทางด้านจิตใจ, ต้องการให้คนอื่นเห็นความสำเร็จในรูปแบบของที่ระลึก</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>การพัฒนาการคมนาคมทางถนนในคริสตศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 18</strong></span> </span></div><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506329918832607026" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpp4ywffzI/AAAAAAAAARY/PWtr-UbJUEQ/s320/6.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 174px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> </span><br />
<div align="center"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ภาพที่ 2 การพัฒนารถม้า4ล้อที่มีระบบกันสะเทือนด้วยสปริง</strong></span></span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">การพัฒนารถม้า4ล้อที่มีระบบกันสะเทือนด้วยสปริง ในศตวรรษที่18มีระบบทางด่วน ที่จะต้องจ่ายค่าผ่านทาง คศ.1815 ถนนมีการพัฒนาดีขึ้น หลุมบ่อลดน้อยลงมีการนำยางมะตอยมาใช้ แกรนด์ทัวร์ (Grand Tour) เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในต้นศตวรรษที่18 ผู้คนที่ร่ำรวยมีมากขึ้นทั่วอังกฤษ คนชั้นสูงนิยมส่งลูกชายไปเรียนต่างประเทศพร้อมอาจารย์ประจำ ตัว เรียกว่าการเดินทางแบบแกรนด์ทัวร์ จนในปี คศ.1749 Dr.Thomas Nugent ได้ตีพิมพ์หนังสือคู่มือการท่องเที่ยวชื่อว่า The Grand Tour ซึ่งหนังสือเล่มนี้ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษามากขึ้น และกลายเป็นความนิยมทางสังคม เมื่อถึงปลายศตวรรษที่ 18 ความนิยมในการเดินทางก็กลายเป็นธรรมเนียมปฎิบัติ</span></div><div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong><span style="color: magenta;">การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่อาบน้ำแร่</span></strong></span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">(Spa)เป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่ในสมัยยุคโรมันแต่ก็ความนิยมก็ได้ลดลงในยุคหลังๆจนในปีคศ.1562 Dr.William Turner ได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับสรรพคุณของน้ำแร่ที่เมือง Bath และอื่นๆในทวีปยุโรปว่ามีสรรพคุณรักษาโรคได้ ทำให้แหล่งน้ำแร่กลายมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง การเดินทางไปรับการบำบัดด้วยน้ำแร่ได้กลายมาเป็นสถานภาพทางสังคมอย่างรวด เร็ว ทำให้บ รรดาสถานบำบัดทั้งหลายเปลี่ยนโฉมหน้าจากสถานรักษาสุขภาพไปเป็นสถานที่ เพื่อความเพลิดเพลินแทน เมื่อปลายศตวรรษที่ 18 ยุคเฟื่อฟูของบ่อน้ำแร่ในอังกฤษถูกลดความนิยมลง แหล่งท่องเที่ยวประเภทสปากลายเป็นเมืองของผู้สูงอายุแทน และในขณะเดียวกันธุรกิจประเภทบ้านพักตากอากาศชายทะเลก็ได้รับความนิยมมากกว่าสปา</span></div><div align="justify"><span style="font-family: arial;"><strong><span style="color: magenta;">กำเนิดยุคสถานที่ตากอากาศชายทะเล</span></strong></span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">ความคิดที่ว่าการอาบน้ำทะเลจะทำให้สุขภาพดีขึ้นเป็นที่ยอมรับกันในตอนต้นของ ทศวรรษที่ 18 ระยะนี้สถานที่ตากอากาศชายทะเลในเกาะอังกฤษก็เริ่มผุดขึ้น เมือง Scarborough เป็นเมืองแรกที่คนนิยมไปบำบัดโรคด้วยน้ำทะเล ซึ่งความนิยมได้เริ่มต้นขึ้นราวทศวรรษที่ 1730 Dr.Richard Russel ได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยน้ำทะเลขึ้นใน คศ.1752 ทำให้การอาบน้ำทะเลเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกมาก ซึ่งใน ฝรั่งเศสสามารถจัดหาให้ได้ ทำให้จากปี 1880 เป็นต้นไป รถไฟสายสีน้ำเงินก็จัดรถนอนที่หรูหรา นำนักท่องเที่ยวจากปารีสไปสู่ริเวียร์ร่าในทั้ง หน้าร้อนและหน้าหนาว</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเทียวในศตวรรษที่ 19</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">เราสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินทาง และปัจจัยที่ดึงดูดให้คนเดินทาง ในการเดินทางนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือ เงินและเวลามากพอที่ใช้ในการเดินทางแต่ละครั้งซึ่งในอดีตสองสิ่งนี้ก็เอื้อ เพียงแค่คนบางกลุ่มเท่านั้น และสิ่งที่สำคัญเท่าๆกับเวลาและเงินก็คือ สิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เช่นยานพาหนะที่พวกเขาสามารถจ่ายได้ รวดเร็ว ปลอดภัย สะดวกสบาย ซึ่งทั้งหมดนี้มันพึ่งจะเริ่มมีในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ข้อจำกัดอีกอย่างก็คอโรคภัยไข้เจ็บ อัตตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ยุคของเครื่องจักรไอน้ำ : กำเนิดการเดินทางโดยรถไฟ</strong></span> </span></div><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506325712130488706" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpmD7kjOYI/AAAAAAAAARA/DvehlrQ7ljk/s320/7.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 191px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> </span><br />
<div align="center"><span><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ภาพที่ 3 รถไฟ</strong></span></span></span><div align="justify"><span style="color: magenta;">ทางรถไฟสายแรกถูกสร้างขึ้นในประเทศอังกฤษปี คศ.1825 ตรงกับมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งมีทางรถไฟเชื่อเมืองใหญ่ๆ และเมืองอุตสาหกรรม และในยุโรปและเกือบทั่วไปในโลก ส่วนใน สหรัฐอเมริกามีบริการรถไฟเริ่มราวทศวรรษ ที่ 1820 และเชื่อมถึงฝั่งตะวันตกเสร็จในปี 1869 ในอังกฤษรถไฟถูกใช้ทั้งการค้าและธุรกิจ Thomas Cook ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบการคนแรกที่ได้จัดพาทัวร์สมาชิกของสมาคม เดินทางจาก Leicester ไปยัง Loughborough ในราคา 1 ชิลลิ่งหรือ 5 เพนนี และในปี 1845 เขาก็จัดทัวร์เป็นธุรกิจเต็มรูปแบบ ทำให้คนอื่นจัดตามเขา เขาจะติดต่ออย่างใกล้ชิดกับบรรดาโรงแรมรถไฟ และเขาจะร่วมเดินทางไปกับลูกทัวร์เพื่อลดความกังวลของลูกทัวร์และนำเอา hotel voucher มาใช้เป็นครั้งแรกในปี 1876 และในตอนกลางคริสตศตวรรษที่ 18 การประดิษฐ์กล้องถ่ายรูปก็เป็นผลสำเร็จ ทำให้เดิกการเดินทางเพื่อความมีหน้ามีตา และเก็บหลักฐานที่ตนไปมาให้คนที่ไม่ได้ไปเห็นถึงความสำเร็จของการเดินทาง<br />
<br />
<span style="font-family: arial;"><strong>เรือกลไฟ</strong></span></span></div><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506327565465264578" src="http://3.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpnvzx_ocI/AAAAAAAAARI/bn1hL1C-nZg/s320/8.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 195px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /> </span><br />
<div align="center"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ภาพที่ 4 เรือกลไฟ</strong></span><br />
</span></div><div align="justify"><span style="font-family: arial;"><span style="color: magenta;">บริษัท แรกที่เปิดให้บริการเรือกลไฟระยะไกลคือ Pand O เริ่มเปิดเส้นทางไปยังอินเดียและตะวันออกไกล ประเทศอังกฤษเป็นชาติแรกที่เปิดให้บริการเรือน้ำลึก จึงจัดวาเป็นมหาอำนาจทางการขนส่งทางทะเลในช่วงหลังของศตวรรษที่ 19 แต่ก็มีคู่แข่งในทวีปอเมริกาเหนืออีกหลายบริษัท ในปี คศ.1869 คลองสุเอซได้เปิดให้เรือผ่านเป็นครั้งแรก และใรตนอลกางศตวรรษที่ 20 ความรุ่งเรืองของการเดินเรือก็ลดลงเมื่อมีการเปิดบริการด้านการบิน Thomas Cook</span></span></div><div align="justify"><span style="font-family: Arial;"><span><span style="color: magenta;"><strong>การท่องเที่ยวในศตวรรษที่ 20 (1901-2000)ช่วง 50 ปีแรก</strong> </span></span></span></div><span style="color: magenta;"><br />
</span><br />
<div align="center"><span style="color: magenta;"><img alt="" border="0" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5506328928374045362" src="http://2.bp.blogspot.com/_3aQGN6qffQY/TGpo_JAxOrI/AAAAAAAAARQ/aQqHZQ8TGow/s320/9.jpg" style="cursor: hand; display: block; height: 167px; margin: 0px auto 10px; text-align: center; width: 320px;" /></span></div><div align="center"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>ภาพที่ 5 สายการบินของอเมริกา Pan American Airways</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">สถานที่ตากอากาศในริเวียร่าของฝรั่งเศสเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องที่ยวฐานะดี ทศวรรษที่ 1920 เกิดการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อรูปแบบการเดินทางเปลี่ยนไปผู้คนนิยมหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น มีการพัฒนาถนน นำรถบรรทุกที่ขนสัมภาระในสงครามทำเป็นรถโค้ช ซึ่งได้รับความนิยมมากในช่วง 1920 และต่อมาบริษัท Henry Ford ในอเมริกา ผลิตรถยนต์รุ่น Model T ในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ เป็นครั้งแรก ทำให้การเดินทางโดยรถไฟลดน้อยลง และการบินเพื่อการพาณิชย์ได้เริ่มเป็นครั้งแรกในปี 1919 ในทวีปยุโรป สายการบินของอเมริกา Pan American Airways เริ่มบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1930 โดยในระยะแรกเพื่อการขนส่งจดหมายและไปรษณีย์ภัณฑ์ จนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พัฒนามากถึงขนส่งผู้โดยสารได้</span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;"><span style="font-family: arial;"><strong>การท่องเที่ยวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2</strong></span> </span></div><div align="justify"><span style="color: magenta;">ผู้คนเริ่มสนใจการเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น การเดินทางที่สำคัญคือการเดินทางระยะไกลด้วยเครื่องบิน การบินเที่ยวแรกเป็นการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างนิวยอร์คในอเมริกา กับเมืองปอร์ธสมัธของอังกฤษ ต่อมา Harold Bamberg, Freddie Laker ในปีคศ.1958 ได้มีการนำเครื่องบินไอพ่นโบอิ้ง 707 นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางอากาศแบบมหาชนเป็นครั้งแรก และในต้นปี 1970 มีการนำเครื่องบินที่เร็วกว่าเสียง คือ เครื่องบินคองคอร์ดมาใช้ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส บินระหว่างลอนดอนและปารีสและนิวยอร์ค ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักธุรกิจเท่านั้น ในปีเดียวกันมีการเปิดตัวเครื่องบินเจทบรรจุผู้โดยสารได้ถึง 400 คน และ Thomas Cook ได้จัดทัวร์เหมาลำด้วยเครื่องบิน พานักท่องเที่ยวจากนิวยอร์คไปชิคาโก เพื่อดูการแข่งขันชกมวย นับว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีหลากหลายประเทศ ที่นิยมจัดทัวร์</span> <span style="font-family: Arial;"><span></span></span></div></div>วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-85712660511282207542011-02-10T10:29:00.000-08:002011-02-10T10:29:38.766-08:00ความหมายและความสำคัญของการท่อทเที่ยววิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1997785016644153466.post-58345580760962790632011-02-10T09:57:00.000-08:002011-02-10T09:57:27.340-08:00การขนส่งทางบก<span class="mw-headline"><span style="font-size: x-small;"><span style="color: magenta;"><strong><u>การขนส่งทางบก</u></strong> </span></span></span><br />
<span style="color: magenta; font-size: x-small;"> การขนส่งทางบก หมายถึง การลำเลียง คน สัตว์ และสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยใช้พาหนะที่เคลื่อนที่บนบก </span><br />
<span style="color: magenta; font-size: x-small;"> วิวัฒนาการของการขนส่งทางบก โดยเริ่มจากการแบกหามโดยมนุษย์ ใช้สัตว์ประเภทช้าง ม้า วัว ควาย บรรทุกสิ่งต่างๆ ใช้สัตว์ลากยานพาหนะ ซึ่งในปัจจุบันใช้รถไฟและรถยนต์ </span><br />
<b><span style="color: magenta; font-size: x-small;">1. การขนส่งทางบก ได้แก่ </span></b><br />
<dl><dd><span style="color: magenta; font-size: x-small;">1.1 ทางรถไฟ รถไฟเป็นยานพาหนะที่นิยมใช้กันทั่วโลกเพราะมีความคงทนถาวร รถไฟมีข้อดีดังนี้ </span></dd></dl><ul><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">เหมาะสำหรับขนส่งสิ่งของสัมภาระที่มีจำนวนมากและใช้ในระยะทางไกล </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">สามารถขนส่งวัตถุดิบ หรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น เหล็กกล้า ถ่านหิน เครื่องจักร </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">สามารถใช้ขนส่งอาวุธหนักเมื่อเกิดศึกสงคราม เช่น เสบียงอาหาร อาวุธหนัก ฯลฯ </span></li>
</ul><dl><dd><b><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ส่วนข้อเสียของรถไฟมี ดังนี้ </span></b></dd></dl><ul><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ไม่สามารถสร้างทางรถไฟในบริเวณที่เป็นภูเขาสูงขึ้นได้ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำรางและก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสูง </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ทำให้เสียเวลาเดินทางในการสับเปลี่ยนตู้ และการสับหลีกกันเพื่อเข้าสถานี </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณการค้าหรือย่านธุรกิจได้ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ปัจจุบันคนไม่นิยมใช้การคมนาคมทางรถไฟ เพราะต้องใช้เวลามากกว่ารถยนต์ </span></li>
</ul><dl><dd><b><span style="color: magenta; font-size: x-small;">บริเวณที่มีทางรถไฟหนาแน่นของโลก ได้แก่ </span></b></dd></dl><ol><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ด้านตะวันตกและตอนกลางของทวีปยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเสส เบลเยี่ยม เยอรมนี ฯลฯ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ได้แก่ บริเวณรัฐนิวเซาต์เวลส์และวิกตอเรีย </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">เขตปามปัสของอาร์เจนตินาร ได้แก่ ย่านเมืองริโอเดจาเนโร และเซาเปาโลในทวีปอเมริกาใต้ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ในเขตเอเชีย ได้แก่ อินเดียส ปากีสถาน ฯลฯ </span></li>
</ol><dl><dd><span style="color: magenta; font-size: x-small;">1.2 ทางถนน ชาวโรมันเป็นผู้เริ่มสร้างถนนแบบทันสมัยขึ้น เมื่อ 312 ปี ก่อนคริสต์ศักราชโดยใช้หิน ดิน กรวด ปูทับเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า แอพเพียนเวย์ (Appian way) การ </span></dd></dl><dl><dd><b><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ขนส่งทางรถยนต์ มีข้อได้เปรียบกว่าทางรถไฟ ดังนี้ </span></b></dd></dl><ol><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ถ้าเป็นการขนส่งระยะทางสั้นๆ จะเสียค่าใช้จ่ายถูกกว่ารถไฟ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">เสียค่าใช้จ่ายการก่อสร้างถนนกูกกว่าการทำทางรถไฟ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">รถยนต์สามารถนำสินค้าไฟสู่แหล่งตลาดได้ทั่วทุกแห่งได้มากกว่ารถไฟ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">รถยนต์สามารถบรรทุกสินค้าไปได้ทุกลักษณะภูมิประเทศ เช่น ภูเขาสูงชัน </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ใช้เวลาในการเดินทางรวดเร็วกว่ารถไฟมาก </span></li>
</ol><dl><dd><span style="font-size: x-small;"><span style="color: magenta;"><b>ข้อดีของการขนส่งทางรถไฟ คือ</b> </span></span></dd></dl><ol><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ประหยัดเชื้อเพลิง </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ปลอดภัยกว่าการขนส่งแบบอื่นๆ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">สามารถขนส่งสินค้าได้ปริมาณมากๆ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">รักษาเวลาได้ดี </span></li>
</ol><dl><dd><span style="font-size: x-small;"><span style="color: magenta;"><b>ข้อเสียของการขนส่งทางรถไฟ</b> </span></span></dd></dl><ol><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ต้องใช้ทุนสูงมาก </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ให้บริการได้เฉพาะตามสถานีที่ตั้งเท่านั้น </span></li>
</ol><dl><dd><span style="font-size: x-small;"><span style="color: magenta;"><b>ข้อดีของการขนส่งทางรถยนต์</b> </span></span></dd></dl><ol><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ประหยัดเวลา </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ให้บริการได้ถึงที่ และ </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">เลือกใช้รถยนต์ได้ตามขนาดที่เหมาะสมกับการบรรทุก </span></li>
</ol><dl><dd><span style="font-size: x-small;"><span style="color: magenta;"><b>ข้อเสียของการขนส่งทางรถยนต์</b> </span></span></dd></dl><ol><li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">ขนส่งได้ระยะไกลและปริมาณน้อย </span></li>
<li><span style="color: magenta; font-size: x-small;">เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย </span></li>
<li><span style="color: magenta;"><span style="font-size: x-small;">ควบคุมเวลาในการเดินทางยาก</span> </span></li>
</ol><div id="catlinks"><div class="catlinks"><br />
</div></div><!-- end content --><div class="visualClear"><span style="color: yellow;"></span></div><!-- end --><!-- end maincontent -->วิจิตรา นันทนาวุฒิhttp://www.blogger.com/profile/12535046992419838573noreply@blogger.com0